แมวไทยมีหลายชนิด หลายท่านนิยมเลี้ยงติดบ้านไว้ เพราะความเชื่อที่มีมาแต่โบราณว่าเป็นแมวมงคล เลี้ยงแล้วจะดี นำโชคลาภและความสุขมาให้เจ้าของ ซึ่งในปัจจุบันยังคงหลงเหลือแมวสายพันธุ์ดั้งเดิมให้เห็นอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็น วิเชียรมาศ ขาวมณี สีสวาท ศุภลักษณ์ ซึ่งจัดว่าเป็นแมวมงคลตามตำราโบราณ
ล่าสุดตกเป็นที่ฮือฮาในกลุ่มทาสแมวอีกครั้ง เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Wanwisa Pingchai ได้โพสต์ภาพน้องแมวน่าตาน่ารัก ที่มีลายแปลกตาไม่เหมือนใคร จนทาสแมวบางรายเข้าใจว่าเอาสีไปย้อม ไม่ใช่สีของน้องจริง แต่เจ้าตัวก็ยืนยันว่า เพื่อนที่ถ่ายภาพมาเป็นแบนี้จริงๆ โดยระบุข้อความว่า "ลายนี้น้องได้จะไดมา แมวภูเขา *ขอไม่แจ้งพิกัดนะคะ เพราะน้องเลี้ยงแบบปล่อยให้ใช้ชีวิต ชิคๆคูลๆ อยู่แถวนั้น"
ซึ่งก็ทำให้ทาสแมวเอ็นดในความน่ารักของแมวตัวนี้เป็นจำนวนมาก ซึ่งเมื่อทางเพจแมวสยาม cats of Thailand ได้มาพบเข้า ก็ได้ให้ความรู้ในเพขให้เราได้รู้กันมากขึ้นว่า "
หลายคนไม่เคยเห็นตำรานี้ แอดมินไม่ค่อยได้นำเสนอเท่าไหร่ เป็นตำราของพระยาทิพโกษา ถูกเก็บไว้ในหอสมุดแห่งชาติ เป็นตำราที่แปลกกว่าตำราอื่นๆ มีแมวไทยมากกว่า 23 ชนิด (มงคล 17 อัปมงคล 6) และเป็นตำราที่มีลักษณะของแมววิลาสมากที่สุดด้วย
ตำราฉบับนี้เป็นสมุดข่อย พระยาทิพโกษาเป็นผู้บริจาคให้หอสมุดแห่งชาติในสมัยรัชกาลที่ 6 แต่ตำราถูกเขียนไว้ก่อนหน้านั้นนานมาก สันนิฐานว่าเขียนในสมัยรัชกาลที่ 4 - 5 และในตำรามีการอ้างอิงถึงอีกหลายๆ ตำราด้วย เช่น
แมวตัวดังกล่าวอยู่ในส่วนท้ายของตำราพระยาทิพโกษา อ้างถึงตำรานายศรี หรือนายบุญศรีเสมียน วาดไม่เหมือนของตำรานายนุดถึง 4 ตัว และมีอีก 13 ตัวที่แปลกออกไปอีก ซึ่งน่าจะหมายถึงแมวมงคลในตำราที่รวมเป็น 17 ชนิด มีลักษณะแตกต่างจากตำราอื่นๆ เช่น ลายเส้นสีขาวของแมววิลาศ หรือลายด่างของแมวมุลิลา เป็นต้น
แมวตัวดังกล่าวอยู่ในหมายเลข 12
ด้านซ้าย - ตำรานายบุญศรีเสมียน
ด้านขวา - ตำนานนายนุด
เป็นแมวที่ไม่ถูกระบุว่าเป็นชนิดใด ชื่ออะไร รวมถึงไม่มีกลอนบอกกล่าวด้วย บอกเพียงว่า แมวตัวที่ 12 ของนายบุญศรีเสมียนและนายนุดเขียนไว้ไม่เหมือนกัน ส่วนแมวมงคลของพระยาทิพโกษา ยังคงมีแมวมงคลและอัปมงคล รวม 23 ชนิดเขียนไว้เหมือนเดิม ซึ่งอยู่ในส่วนครึ่งเล่มแรกของตำรา
ในปัจจุบันเรายังหาตำราของนายบุญศรีเสมียนและตำราของนายนุดไม่เจอ ไม่ทราบว่าเสื่อมสลายหรือถูกเก็บรักษาไว้ที่ไหน แต่น่าจะเก่าแก่มากถึงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ หรืออ้างอิงได้ถึงสมัยอยุธยาตอนปลาย ซึ่งตำราของพระยาทิพโกษาได้เรียนวิชามาจากตำราดังกล่าวด้วย เป็นบุคคลเดียวกับที่จดบันทึกเรื่องราวของสมเด็จพุทธจารย์โต วัดระฆังฯ
CR : ขอบคุณรูปภาพน้องแมวจากลูกเพจ ตอนนี้แอดมินกำลังติดตามผลอยู่
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก