วันที่ 8 มี.ค.64 ที่บริเวณศาลการเปรียญ วัดโคศุภราช ตำบลคลองวัว อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง พบว่ามีการตั้งบำเพ็ญกุศลศพ สองสามีภรรยาที่ได้เสียชีวิตพร้อมกัน หลังจากได้เจ็บป่วยมานานโดยนางสมหวัง จันภูงา อายุ 58 ปีได้เสียชีวิลงในตอนเช้า ขณะที่นายไสว สนธิรอด อายุ 62 ปีสามีที่นอนป่วยอยู่ที่บ้านทราบข่าวในตอนเย็นและได้เสียชีวิตลงด้วยอาการสงบ ชาวบ้านเชื่อในรักแท้ที่มีอยู่จริง และได้ยินทางฝั่งสามีพูดอยู่เป็นประจำว่า "อย่าโง่เราจะต้องตายพร้อมกัน"
นางรสริน สนธิรอด อายุ 34 ปี ลูกสาวนายไสว เล่าให้ฟังว่า ทางพ่อกับแม่เลี้ยงนั้นใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันมานาน 15 ปีโดยทางฝ่ายต่างผ่านการมีครอบครัวมาแล้ว และเมื่อได้พบรักรักกันต่างก็ดูแลลูกๆ ของทั้งฝ่ายอย่างดี และมาระยะหลังทั้งคู่ได้เกิดการเจ็บป่วยทางลูกๆ จึงแยกกันดูแล แต่ยังคงไปมาหาสู่กันเป็นประจำ และเมื่อวานที่ผ่านมาทางนางสมหวัง ที่เจ็บป่วยอยู่ที่บ้านอีกหลังมีลูกๆ ดูแลได้เสียชีวิตลงอย่างสงบ ต่อมาในตอนเย็น ทางลูกๆได้บอกกับนายไสว ที่เจ็บป่วยนอนรักษาตัวอยู่ที่บ้านว่าภรรยาได้เสียชีวิตแล้ว
เมื่อนายไสว ทราบข่าวก็ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ทางลูกจึงได้นำศพมาตั้งบำเพ็ญกุศล ไว้คู่กันที่ศาลาการเปรียญ วัดโคศุภราช หรือวัดคลองวัว โดยจะทำการสวดพระอภิธรรมศพทั้งคู่เป็นเวลา 2 วัน และจะทำการฌาปนกิจ นางสมหวัง ในวันอังคารที่ 9 มี.ค. 64 ส่วนทางด้านนายไสว ผู้เป็นสามีจะทำการฌาปนกิจศพใน วันพุธที่ 10 มี.ค. 64
ด้านนางวรรณอนงค์ อินทร์สนอง อายุ 51 ปี เพื่อบ้านเล่าให้ฟังว่า นายไสว ได้พูดอยู่ตลอดทุกวันว่า เขาทั้งสองคน แม้ไม่ได้เกิดวันเดียวปีเดียวกัน แต่จะตายในวันเดียวกัน ประกอบกับระยะหลัง ทั้งสองเริ่มมีอาการเจ็บป่วย ทางภรรยาก็จะเตือนสามีว่าให้ดูแลสุขภาพ แต่สามีมีจะพูดจนติดปากว่า "อย่าโง่เราจะต้องตายพร้อมกัน" ซึ่งเพื่อนบ้านทุกคนก็ได้ยินเป็นประจำ และชื่อว่ารักแท้มีอยู่จริง เป็นครั้งแรกที่พบเห็นว่าสามีภรรยา เกิดการเจ็บป่วยทั้งสองฝ่าย เมื่อภรรยาได้เสียชีวิตลง สามีทราบข่าวก็เสียชีวิตตามกันไป
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก Ake Srisuwan