มงคลกิตติ์ กล่าถึงประเด็นราคาน้ำมันแพง ชี้ ปกติต้นทุนน้ำมันจากหน้าโรงกลั่น ก็อาจจะประมาณ 14-15 บาท คิด VAT รวมกันรอบแรก หลังจากนั้นก็มาเป็นค่าการตลาด ค่าการตลาดก็คิด VAT อีกรอบหนึ่ง แล้วรวมกันทั้งหมด เป็นราคาขายให้กับพี่น้องประชาชน เบ็ดเสร็จแล้วเราเก็ยภาษีทุกประเภทประมาณ 8-10 บาท/ลิตร
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ถึงประเด็นราคาน้ำมันแพงขึ้น โดยบางช่วงบางตอน นายมงคลกิตติ์ ได้กล่าวว่า คือมันมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ราคาน้ำมันตก ช่วงโควิด-19 เมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากว่าเขามีการสั่งน้ำมันกันล่วงหน้า เมื่อสั่งล่วงหน้าแล้วปรากฏว่ามันหยุดกันหมด พอมันหยุดกันทั้งประเทศน้ำมันเลยค้างสต๊อก ราคามันก็เลยถูกลง แต่ตอนนี้การขนส่งเริ่มเป็นปกติเหมือนเดิมแล้ว ซึ่งการขนส่งกับเรื่องโควิด-19 มันเป็นคนละประเด็นกัน แล้วอีกอย่าง ประเทศเมียนมากับประเทศไทยจะเอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้เนื่องจากประเทศเมียนมา เขาเก็บภาษีน้ำมันไม่เยอะเหมือนประเทศเรา อย่างประเทศเรา เราเสียภาษีประมาณ 6 ประเภทด้วยกัน
ปกติต้นทุนน้ำมันจากหน้าโรงกลั่น ก็อาจจะประมาณ 14-15 บาท แล้วก็มาเสียภาษีสรรพากรเยอะ ประมาณลิตรละ 5-6 บาท แล้วก็ภาษีเทศบาลก็ประมาณสัก 50-60 สตางค์/ลิตร แล้วก็เขากองทุนน้ำมัน แล้วก็เอาเข้ากองทุนอนุรักษ์ แล้วก็คิดต้นทุนหน้าโรงกลั่น ประสมภาษีต่างๆ คิด VAT รวมกันรอบแรก หลังจากนั้นก็มาเป็นค่าการตลาด ค่าการตลาดก็คิด VAT อีกรอบหนึ่ง แล้วรวมกันทั้งหมด เป็นราคาขายให้กับพี่น้องประชาชน เบ็ดเสร็จแล้วเราเก็ยภาษีทุกประเภทประมาณ 8-10 บาท/ลิตร
ซึ่งถามว่าเราสามารถลดภาษีได้ไหม เราทำได้ แต่รายได้ตรงนี้เราจะหายไป สมมุติว่าเราลดค่าน้ำมันเราไม่เก็บภาษีสรรพากรเลย จะทำให้ค่าขนส่งลด ค่าข้าวลด ทุกอย่างลดหมด แต่เราจะไม่ได้เงินเข้าไปบริหารประเทศ หายไป 3-4 แสนล้าน แต่ถ้าเราหารายได้ส่วนอื่นมาชดเชยส่วนนี้ได้ เราก็จะสามารถลดค่าครองชีพทุกอย่างได้หมด เพราะฉะนั้นประเทศเราเก็บภาษีน้ำมันเยอะก็เลยทำให้มีราคาสูง ทั้งนี้ สามารถรับฟังเนื้อหาทั้งหมดแบบเต็มได้ ในคลิปด้านล่าง
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก EasyYukhon