ชาวบ้านสุดสะเทือนใจ ยากเกินจะรับไว้ วอนเจ้าหน้าที่ตำรวจ จับลูกป่วยจิต ข่มขืนแม่ ต่อหน้าพ่อพิการ ไร้แรงช่วย
สำนักข่าว อีจัน รายงานว่า ชาวบ้านอ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ รู้สึกหวาดผวา หลังหนุ่มติดยาจนป่วยทางจิต ก่อเหตุทุบตีพ่อพิการ และข่มขืนแม่ผู้ให้กำเนิด อีกทั้งยังชอบเดินทั่วหมู่บ้านโชว์การสำเร็จความใคร่ จนต้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการ
ชายผู้ทำชาวบ้านพากันผวาคือ นายเอ็ม อายุ 22 ปี มักก่อเหตุทำร้ายพ่อพิการ วัย 67 ปี และเเม่วัย 51 ปี บ่อยครั้งยังข่มขืนแม่ตัวเอง ชาวบ้านแม้อยากจะเข้าไปช่วย แต่ก็ไม่กล้า เพราะกลัวจะถูกทำร้าย
นายเอ็ม แม้พูดรู้เรื่องทุกอย่าง แต่บางครั้งก็มีอาการเหม่อลอย เมื่อถูกจับตัวไปไม่กี่วันก็ออกมาจากคุก ออกมาก่อเหตุซ้ำเหมือนเดิม ชาวบ้านรู้สึกสงสารพ่อแม่ นายเอ็มจับใจ แต่ไม่รู้จะทำอะไรได้บ้าง
นอกจากนั้น นายเอ็มยังชอบแก้ผ้าโชว์การสำเร็จความใคร ให้ชาวบ้านดู ยิ่งตอนกลางคืนนายเอ็มก็จะยิ่งไปมาทั่วหมู่บ้าน จนชาวบ้านหวาดผวาด กลัวว่าสักวัน นายเอ็มจะลงมือขืนใจเด็ก หรือผู้สูงอายุในหมู่บ้าน
ด้าน นายบุญเต็ม กัลยาพานิช นายอำเภอประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ นำทีมพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.บุรีรัมย์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่า นายเอ็ม ติดยาเสพติดจนป่วยทางจิต จึงมีพฤติกรรมก้าวร้าวทำร้ายพ่อแม่ และข่มขืนแม่แท้ๆของตัวเอง โดยแม่ของนายเอ็มก็มีอาการติดสุรา
จากการหารือร่วมกัน เบื้องต้นจะส่งนายเอ็มไปเข้าบำบัดรักษาอาการป่วยทางจิตอย่างจริงจัง หลังไม่เคยได้รับการรักษาหรือกินยาอย่างต่อเนื่อง ในส่วนพ่อแม่ของนายเอ็ม และลูกสาวที่ต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ก็จะเข้าไปดูแลสภาพจิตใจอย่างเต็มที่ เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นละเอียดอ่อน
นอกจากนั้นจะเข้ามาช่วยเหลือครอบครัวของนายเอ็ม ให้ความเป็นอยู่ดีขึ้น หลังพบว่าตอนนี้ครอบครัวนายเอ็มประทังชีวิตด้วยเงินเบี้ยคนชรา เบี้ยผู้พิการ และบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเท่านั้น และจะส่งแม่นายเอ็มไปบำบัดอาการติดสุราอีกด้วย เพื่อให้กลับมามีความสามารถในการเลี้ยงครอบครัวได้อีกครั้ง
ระหว่างนี้จะหารือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยให้พ่อแม่นายเอ็มซึ่งเป็นผู้เสียหายได้เข้าไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย เชื่อนายเอ็มหากได้รับการบำบัดสำเร็จ ก็น่าจะกลับมาใช้ชีวิตปกติได้ ก็อาจกลับมาอยู่และดูแลครอบครัวต่อ ซึ่งเรื่องนี้ต้องประเมินกันอีกครั้งตามสภาพความเป็นจริง
ด้าน น.ส.เอ (นามสมมติ) พี่สาวนายเอ็ม เปิดเผยว่า ตนเองรู้สึกดีใจ หลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการช่วยเหลือ เพราะที่ผ่านมาตนทุกข์ใจมากกับปัญหาที่เกิดขึ้น ตนเพียงคนเดียว คงไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เข้ามามอบความช่วยเหลือ พาน้องชายไปบำบัด และดูแลสภาพความเป็นอยู่และสภาพจิตใจของพ่อและแม่ แต่สิ่งที่กังวลมากที่สุดตอนนี้คือ กลัวน้องชายจะกลับไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีกครั้ง แล้วไปก่อเหตุแบบเดิม หากกลับมาบ้านแล้วเจอสภาพแวดล้อมแบบเดิมๆอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก อีจัน