การลงโทษหรือตักเตือนเมื่อเด็กนักเรียนทำผิดนั้น มีหลายวิธีด้วยกัน แต่การใช้ความรุนแรง ด้วยวิธีการที่สั่งให้เพื่อนร่วมชั้น ตบหน้านักเรียนที่ทำผิดนั้น ก็ไม่ใช้ทางออกที่ถูกต้อง ทำให้ผู้ปกครองหลายท่าน เกิดความไม่พอใจ เนื่องจากบุตรหลานของตัวเองถูกตบหน้าจนเส้นเลือดฝอยแตก หน้าช้ำ
โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ สักก์ธนัชญ์ เลาหสลิลโรจน์ ซึ่งเป็นผู้ปกครองของนักเรียนที่ถูกครูสั่งให้เพื่อนตบหน้า ได้โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความว่า "ครูสั่งเพื่อนนักเรียน ป.2 ในห้องรุมตบหน้าเนื่องจากหลานผมพูดมาก ภาพถ่ายวันนี้ 28 มีนาคม 2564 ช่วงเย็น เรื่องน่าจะเกิดวันศุกร์ที่ 26 มีนาคม 2564
เด็กในห้องบอกว่า ครูเลือกเพื่อนให้ตบคนละ10ที 16คนค่ะ มึงจะโดนตบ 160 ทีจากมือกูนี่แหละ **ผู้ปกครองของเด็ก 16 คน ที่สมรู้ร่วมคิดกับครูนก เตรียมให้ปากคำที่สถานีตำรวจด้วยนะครับ ขออนุญาติรบกวนเวลาที่มีค่าด้วย #ผิดทั้งคนใช้และคนถูกใช้ แล้วมันเป็นภาพจำของเด็กทั้งห้อง โดยเฉพาะหลานผมที่ถูกกระทำ รวมถึงเด็ก 16 คนที่เป็นผู้กระทำ แล้วไหนจะเด็กที่อยู่ในห้องอีก อันตรายมาก
ครู ที่สอน โรงเรียนบ้านนา อ.จะนะ จ.สงขลา บ้านนา โรงเรียน ทำไมให้เพื่อนในห้องรุมตบหลานผมจนแก้มเป็นรอยช้ำเลือด พรุ่งนี้ไม่ต้องลานะ เจอที่โรงพักจะนะ รุมตบดูบ้างได้ไหม ทำไมชอบใช้วิธีปัญญาอ่อน จะหนีความผิดข้อหาเด็กทำร้ายร่างกายกันเอง
ครูตบเด็กมีความผิด เลยน่าจะคิดว่า ให้เพื่อนในห้องรุมตบ น่าจะผิดน้อยหรือเปล่า แต่ลืมคิดไปนะว่าครูคนนั้นได้ปลูกฝังวิธีการอัปยศ ให้แก่เด็กที่เป็นกำลังสำคัญของชาติ ว่าทำแบบนี้สิ เด็กมันก็จะจำภาพความรุนแรงแบบนี้ไปใช้ในอนาคตได้ ผู้บริหารต้องใช้สมองและความสามารถในการคัดกรองครูอย่างสูง ต้องถึง คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต ให้ก้าวหน้า และยั่งยืน"
ล่าสุดมีความคืบหน้าว่า ทางผู้ปกครองได้รวมตัวกันไปแจ้งความแล้ว ส่วนทางด้านครูคนดังกล่าวนั้น ได้ปฏิเสธ ว่าไม่ใช้ความผิดของตน เด็กนักเรียนตบหน้าเพื่อนกันเอง และในวันศุกร์ ที่ 2 เมษายน 2564 ผอ.นัดผู้ปกครองเจอกันที่โรงเรียนบ้านนา 9 โมงเช้า
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก