กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ วิสุทธิ์ ฯ. ได้โพสต์เล่าเรื่องราวที่ตนเองถูกทหารอากาศขับรถเก๋งฝ่าไฟแดงชน จนได้รับบาดเจ็บสาหัส แล้วไม่รับผิดชอบ อีกทั้งคู่กรณี ยังไปโพสต์เฟซบุ๊กว่าไม่ต้องตกใจ แค่เหยียบงู จึงขอความเป็นธรรมให้ตัวเองและครอบครัวซึ่งอยู่กัน 2 พ่อลูก พ่อต้องหายืมเงินมาดูแลเพราะไม่สามารถไปทำงานได้ต้องดูแลตัวเองที่ไม่สามารถทำงานได้เช่นกัน
โดยข้อความระบุว่า “พวกคุณคิดยังไงกับรถที่โครงหักร ถเสียศูนย์จะซ่อมให้แล้วมาให้ผมผ่อนต่อ จากชีวิตที่กำลังดี จะต้องมานั่งบำบัดนั่นนี่ ขาผมก็หัก ผมนอนไอซียู 10 วัน และนอนโรงบาลต่ออีกเป็นเดือนตอนนั่นผมยังไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำ ผมผ่าตัด ขา หัว ท้อง หน้าผมก็ผิดรูปต้องบำบัด ฟัดผมก็หัก ไหนจะค่าโรงบาล ค่าใช้จ่าย ค่ากับข้าว พ่อผมไม่ได้ทำงานแกดูแลผม เพราะผมเดินไม่ได้ คุณคิดยังไงในระหว่างที่พวกคุณนั่น ทำงาน ใช้ชีวิตปกติ ในระหว่างที่ผมนั่น เดินไม่ได้ทำงานไม่ได้อีก
ครอบครัวผมเสียรายได้นะครับ ผมต้องทำงานช่วยค่าบ้านพ่อที่เช่า และไหนจะค่ารถที่คุณชนผมอีก แล้วคุณมาโพสต์ลงเฟสบุ๊ค ว่าไม่เป็นไรถือว่าเยียบ งู คุณคิดได้ไงว่าผมเป็นงู คุณลองมาเป็นงูแบบที่คุณคิดสิ คุณจะได้รู้ว่าความรู้สึกความเจ็บปวดแบบนี้เป็นไงคุณเคยเห็นงูที่ทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัวตัวเองไหมคุณมาพูดว่ากำลังใจให้ผม กำลังใจคุณมันกินได้ไหมครับ
ผมบอกเลยหลักฐานผมมีหมด อีกเรื่องที่ครอบครัวผมไม่ได้พูดอีกเรื่องนึง คือคุณเมาแล้วขับ เรื่องคดีคุณมีแต่ยื้อเวลาผ่านไปเลื่อย#คุณเป็นถึงกับทหารอากาศนะครับ#มีแต่เป็นกำลังใจไม่เคยมาเยี่ยมดูผมเลย#ผมกับพ่อผมอยู่กันแค่2คนครับ#ฝากแชร์หน่อย#ผมไม่ได้โพสต์เพื่อประจานผมอยากได้ความเป็นธรรม#นี้ก็เดือนกว่าแล้วคดียังไม่ถึงไหนเลยแม้แต่รถผม”
ต่อมาคนเจ็บเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 22.15 น. วันที่ 10 ก.พ.2564 บริเวณสี่แยกไฟแดง พื้นที่บ้านหนองใหญ่ ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ซึ่งลูกชายเดินทางกลับบ้านหลังจากที่เลิกงานภายในปั๊มน้ำมัน เป็นจังหวะที่ลูกชายขับรถจักรยานยนต์มาเพื่อเลี้ยวขวาในจังหวะไฟเขียวฝั่งตัวเอง จู่ๆมีรถเก๋งสีขาวของคู่กรณีขับฝ่าไฟแดงมาชนอย่างแรง ลักษณะเหมือนไม่ได้เบรกหรือสนใจสัญญาณไฟ
ทำให้ลูกชายกระเด็นออกจากรถไปคนละทิศคนละทาง สภาพรถเสียหายไปกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ลูกชายสลบ หลังเกิดเหตุชาวบ้านในละแวกนั้นได้ออกมาช่วยเหลือเรียกรถพยาบาลนำส่งโรงพยาบาลขอนแก่น พักรักษาตัวทำการผ่าตัดที่ขาขวาเท้าขวา และผ่าช่องท้องเพื่อท่อระบบขับถ่ายของรวม 3 ครั้ง จนถึงวันที่ 24 มี.ค.2564 ออกมาพักรักษาตัวที่บ้าน และหมอจะนัดไปพบศัลยแพทย์ในวันพรุ่งนี้เพื่อดูเรื่องการรักษาฟันหน้าที่แตก 2 ซี่ กรามเบี้ยวรับประทานอาหารลำบากและไม่สามารถดื่มน้ำด้วยแก้วได้
ตลอดเวลาช่วงการรักษาตัวของลูกชายตนเองต้องหาเงินมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลลูกก่อนเนื่องจากสิทธิ์ประกันสังคมให้สำรองจ่ายเงิน จึงต้องไปกู้หนี้ยืมสินจากหลายๆที่มา และก็ต้องหยุดงานเพื่อดูแลลูกชายเพราะมีกันแค่ 2 คน ลูกชายก็ต้องหยุดงานไปโดยปริยาย ไม่สามารถทำงานได้ การใช้ชีวิตเป็นไปอย่างลำบาก และคู่กรณีไม่เคยมาเหลียวแลหรือมาพูดคุยด้วย มีแต่ให้คนอื่นมาคุยแทน และพยายามบ่ายเบี่ยงเรื่องการเยียวยาว่าต้องรอประกัน ซึ่งผ่านไป 2 เดือนแล้ว
ลูกชายพบว่าชายคู่กรณีเป็นทหารอากาศอยู่ที่ จังหวัดอุดรธานี โพสต์เฟซบุ๊กว่า ไม่ต้องตกใจแค่เหยียบงู ทำให้ลูกชายรู้สึกโมโหและมาบอกตนเอง พร้อมกับโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวลงไปทำให้มีคนช่วยกันแชร์ข้อความดังกล่าวกระทั่งมีนักข่าวเข้ามาสอบถาม และคู่กรณีพอเห็นโพสต์ลูกชายก็ลบโพสต์ของตัวเองออกและติดต่อมาจะขอไกล่เกลี่ยพูดคุยกัน
ซึ่งเมื่อวานช่วงเย็นได้พูดคุยกับฝ่ายคู่กรณีแต่ทหารที่ชนก็ไม่ได้มาพบเหมือนเดิม เป็นคนอื่นมาคุยให้อีกครั้งและบอกจะชดใช้ค่ารักษาพยาบาลและค่าเยียวยาเป็นเงิน 750,000 บาท แต่ต้องรอประกันและจะขอจ่ายแบบผ่อน ส่วนในวันพรุ่งนี้ที่ไปพบศัลยแพทย์ซึ่งรักษาในกรณีฟันหัก กรามเบี้ยวปากเบี้ยว ซึ่งในส่วนนี้อยู่นอกเหนือจากสิทธิ์ประกันสังคมของลูกชายจะต่องจ่ายเอง คู่กรณีก็บอกว่าจะจ่ายให้ และจะให้เงินใช้ก่อนบางส่วน ซึ่งกรณีนี้ได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.เพียรวิทย์ เย็นญา รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองขอนแก่นขอนแก่นแล้ว
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก ชุมชนข่าวขอนแก่น