สถานการณ์โควิด-19 วันที่ 27 เม.ย. 2564 ติดเชื้อเพิ่ม 2,179 ราย สะสม 59,687 ราย รักษาหาย 1,958 ราย สะสม 30,824 ราย กำลังรักษา 25,973 ราย (อาการหนัก 169 ราย) เสียชีวิตเพิ่ม 15 ราย สะสม 163 ราย สืบเนื่องจากการระบาดระลอก 3 ในบ้านเรานั้นมีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิต ทางด้าน องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กระทรวงคมนาคม ได้ปรับลดจำนวนเที่ยววิ่งของรถโดยสารประจำทางทุกประเภท เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กระทรวงคมนาคม จะปรับลดจำนวนเที่ยววิ่ง รถโดยสารประจำทางทุกประเภท เพื่อให้สอดคล้องกับประกาศกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เรื่อง “การปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19)” และจำนวนผู้ใช้บริการในปัจจุบัน โดยจะเริ่มดำเนินการ ตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน 2564 เป็นต้นไป
นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ เปิดเผยว่า ตามที่ ขบ. ได้ออกประกาศ เรื่อง “การปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19)” เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2564 โดยขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่ง พิจารณาปรับลดจำนวนเที่ยวการเดินรถ ในการให้บริการขนส่งผู้โดยสารระหว่างจังหวัดในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดเท่าที่สามารถจะทำได้ โดยให้พิจารณาจัดการเดินรถตามความจำเป็นและเหมาะสมกับสถานการณ์ รวมทั้งปรับลดการให้บริการ ในช่วงเวลา 23.00 - 04.00 น. ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2564 เป็นต้นไป ซึ่งในส่วนของการปรับลดจำนวนเที่ยววิ่ง รถกะสว่าง ขสมก. ได้ดำเนินการไปแล้ว ขสมก. จึงเตรียมปรับลดจำนวนเที่ยววิ่งรถโดยสารทุกประเภท ในช่วงเวลาการให้บริการปกติ
ทั้งรถโดยสารธรรมดา และรถโดยสารปรับอากาศ ตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน 2564 เป็นต้นไป เพื่อให้สอดคล้องกับประกาศดังกล่าว และเพื่อให้สอดคล้องกับจำนวนผู้ใช้บริการในปัจจุบันที่มีจำนวนลดลง เนื่องจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนหลายแห่งได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานเป็นการทำงานอยู่ที่บ้าน (Work From Home) และสถานศึกษาหลายแห่งได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการเรียนการสอนเป็นแบบออนไลน์ อย่างไรก็ตาม ขสมก. จะปรับลดจำนวนเที่ยววิ่งเฉพาะเส้นทางที่มีผู้ใช้บริการลดลง ส่วนเส้นทางที่มีจำนวนผู้ใช้บริการเท่าเดิม จะไม่มีการปรับลดจำนวนเที่ยววิ่งแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ขสมก. ได้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 อย่างเคร่งครัด เพื่อลดผลกระทบและสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนผู้ใช้บริการรถโดยสารของ ขสมก. โดยแบ่งเป็น 3 ด้าน ดังนี้
ด้านพนักงานประจำรถ
- 1. ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของพนักงานขับรถ และพนักงานเก็บค่าโดยสารทุกครั้งก่อนขึ้นปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสาร หากตรวจพบว่าพนักงานมีอุณหภูมิสูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส จะไม่ให้ปฏิบัติหน้าที่และให้รีบไปพบแพทย์ทันที
- 2. กำชับพนักงานขับรถและพนักงานเก็บค่าโดยสาร สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง ขณะปฏิบัติหน้าที่ บนรถโดยสาร
- 3. ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือผู้ใช้บริการ สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ขณะใช้บริการรถโดยสาร กรณีมีผู้ใช้บริการบนรถมากพอสมควร ควรรอใช้บริการรถโดยสารคันถัดไป
ด้านรถโดยสารประจำทาง
- 1. เพิ่มความถี่ในการล้างทำความสะอาดระบบปรับอากาศ และการทำความสะอาดผ้าม่าน
- 2. ใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ 70% ฉีดพ่นทำความสะอาดภายใน รถโดยสาร และใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเช็ดทำความสะอาดอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ผู้ใช้บริการต้องสัมผัส เช่น เบาะที่นั่ง ราวจับ กริ่งสัญญาณ เป็นต้น พร้อมทั้งติดตั้งขวดเจลแอลกอฮอล์ สำหรับให้ผู้ใช้บริการล้างมือบริเวณประตูทางขึ้น
- 3. กำหนดจุดนั่ง (เบาะที่ไม่มีเครื่องหมายกากบาท) และจุดยืนภายในรถโดยสาร
- 4. ติดตั้ง QR Code แอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” บริเวณหลังเบาะที่นั่ง และบริเวณผนังด้านข้าง ภายในรถโดยสาร สำหรับให้ผู้ใช้บริการสแกนผ่านโทรศัพท์แบบสมาร์ตโฟน เพื่อเก็บข้อมูลการเดินทาง กรณีตรวจพบผู้ติดเชื้อใช้บริการรถโดยสารคันเดียวและเวลาเดียวกันกับผู้ใช้บริการ จะมีการแจ้งเตือน ผ่านระบบ SMS ว่าผู้ใช้บริการมีความเสี่ยงให้รีบไปพบแพทย์
- 5. ติดตั้ง QR Code แอปพลิเคชัน “หมอชนะ” บริเวณผนังด้านข้างภายในรถโดยสาร เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการ ในการใช้โทรศัพท์แบบสมาร์ตโฟนดาวน์โหลดแอปพลิเคชันดังกล่าว
ด้านผู้ใช้บริการ
- 1. ผู้ใช้บริการจะต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ขณะใช้บริการรถโดยสาร
- 2. ล้างทำความสะอาดมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ที่ติดตั้งบริเวณประตูทางขึ้น
- 3. เพื่อประโยชน์ของผู้ใช้บริการ ควรสแกน QR Code แอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” บนรถโดยสาร เพื่อเช็คอินเมื่อขึ้นรถ และเช็คเอาท์ก่อนลงจากรถ สำหรับผู้ถือบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ของ ขสมก.ทุกประเภท ควรลงทะเบียนบัตรที่ www.bmta.co.th เพื่อให้บัตรดังกล่าว สามารถเช็กอิน - เช็กเอาท์โดยอัตโนมัติ เมื่อนำบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ มาแตะที่เครื่อง EDC เพื่อชำระค่าโดยสาร
- 4. เพื่อประโยชน์ของผู้ใช้บริการ ควรดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “หมอชนะ” เพื่อตอบแบบสอบถามประเมินความเสี่ยงการติดเชื้อไวรัส COVID-19 และลงทะเบียน
- 5. ขอความร่วมมือนั่งบนเบาะที่กำหนด (เบาะที่ไม่มีเครื่องหมายกากบาท) และยืนบนจุดที่กำหนด หรือยืนห่างกันอย่างน้อย 30 เซนติเมตร กรณีมีผู้ใช้บริการบนรถมากพอสมควร ควรรอใช้บริการรถโดยสารคันถัดไป
- 6. ผู้ใช้บริการจะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของพนักงานเก็บค่าโดยสาร นายตรวจและเจ้าหน้าที่ สายตรวจพิเศษอย่างเคร่งครัด
- 7. ขอความร่วมมือผู้ใช้บริการ ชำระค่าโดยสารแบบไร้เงินสด ผ่านบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภทของ ขสมก. บัตรเดบิต-เครดิตที่มีสัญลักษณ์คอนแทคเลส บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และโมบายแบงก์กิ้ง เพื่อลดการสัมผัสธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ ที่อาจเป็นสื่อกลางในการแพร่เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID -19)
สำหรับวิธีป้องกันเบื้องต้นนั้น ต้องกินร้อน ใช้ช้อนเรา และหมั่นล้างมือให้สะอาด เมื่อต้องออกไปข้างนอกอย่าลืมใส่หน้ากากอนามัย งดไปในพื้นที่เสี่ยง เลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ที่มีไข้ ไอ จาม เจ็บคอ เดินทางโดยรถส่วนตัวเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลตามสิทธิ์ (บัตรทอง ประกันสังคม ราชการ) สอบถามเพิ่มเติม : 1330 สายด่วน สปสช. หากมีอาการที่น่าสงสัยให้รีบไปพบแพทย์ทันที!
ขอบคุณข้อมูลจาก thaigov
ขอบคุณภาพประกอบข่าวเพิ่มเติมจาก BMTA องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ