นางสาวศิริกัญญา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เสนอ พักหนี้ อาจจะเป็นการนำมาตรการพักหนี้ที่เคยใช้เมื่อโควิดระลอกแรก ที่พักหนี้ไป 6 เดือน เอากลับมาใช้อีกครั้ง แต่ครั้งนี้ขออีกอย่างหนึ่ง คือว่าเรื่องของดอกเบี้ย ก็ขอให้พักด้วยเพราะว่ารอบที่แล้วถึงจะพักเงินต้นแต่ว่าดอกเบี้ยยังคงเดินอยู่ สำหรับการเยียวยาของท่านนายกรัฐมนตรีออกมาบอกว่าจะเร่งช่วยเหลือเยียวยาประชาชน นั้น ต้องบอกว่ารัฐบาลมีประสบการณ์มาค่อนข้างมาก ดังนั้น คราวนี้คุณไม่มีข้อแก้ตัวใด ๆ ทั้งสิ้นที่คุณจะทำพลาดอีก ดังนั้น เยียวยารอบนี้ ควรจ่ายตรงเป็นเงินสดให้กับ 50 ล้านคน ที่อายุเกิน 18 ปีขึ้นไป
นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงประเด็นทำโปรเจค วัคซีนแก้หนี้ โดยบางช่วงบางตอน นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า เรื่องนี้ทางดิฉันเองร่วมกับ ส.ส. กาย หรือ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ แล้วก็ร่วมกันทำเหมือนเป็นโปรเจค นำร่อง เพื่อให้คำปรึกษาช่วยหาทางออกให้กับประชาชนที่มีภาระหนี้สินทั้งในระบบและนอกระบบ พวกหนี้บัตรเครดิต หนี้สิ้นเชื่อส่วนบุคคล หนี้บ้านหนี้รถต่าง ๆ เพราะเราก็เห็นว่าที่ผ่านมา ทางธนาคารแห่งประเทศไทยก็พอจะมีมาตรการอะไรออกมาช่วยเหลือลูกหนี้ ไม่ว่าจะเป็นมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้ และต่าง ๆ
แต่ว่าประชาชนอาจจะไม่ได้รับข้อมูลตรงนี้ เราก็เข้ามาช่วยแล้วก็ให้คำปรึกษาว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง เราเพิ่งเริ่มได้ประมาณอาทิตย์กว่า ๆ แต่ว่าปัญหาก็คือว่า เคสที่เราได้รับเข้ามาแค่มาตราการที่มันมีอยู่ตอนนี้มันไม่เพียงพอที่จะช่วยเหลือพวกเขาได้ เพราะว่าแต่ละเคสมัน เป็นความประสบปัญหาเรื่องของรายได้ที่มันเกิดขึ้นเมื่อโควิดระลอกนี้ ทำให้อยู่ดี ๆ รายได้ของเขาก็หายไป โควิดระลอกนี้มันคือคลื่นชุดใหญ่ที่เข้ามาซัด แล้วก็มันเป็นคลื่นที่ไม่ได้เป็นความผิด ที่เขาได้เป็นคนก่อขึ้น แต่มันเป็นเหตุการณ์ที่เป็นความผิดของรัฐบาลส่วนหนึ่งที่หละหลวมในการควบคุมการแพร่ระบาด ดังนั้น มันเป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่รัฐบาลจะต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือลูกหนี้พวกนี้ เพราะพวกเขากำลังจะถูกยึดรถ กำลังจะถูกยึดบ้าน กำลังจะถูกฟ้องร้อง เราควรจะมีกลไกอื่น ๆ เพิ่มเติมเข้ามาช่วยเหลือประคับประคองชีวิตของพวกเขา
สำหรับข้อเสนอของเรานะคะ อย่างที่บอกไปแล้วตอนนี้รายได้มันหดลงกระทันหัน ดังนั้น จะให้ลดค่างวดต่อ หรือว่ายืดเวลาต่อมันอาจจะไม่ใช่เวลา สำหรับเวลานี้ ทางออกเดียวก็คือการพักหนี้ นี่คือข้อเสนอข้อที่ 1 ของเรา ก็อาจจะเป็นการนำมาตรการพักหนี้ที่เคยใช้เมื่อโควิดระลอกแรก ที่พักหนี้ไป 6 เดือน เอากลับมาใช้อีกครั้ง แต่ครั้งนี้ขออีกอย่างหนึ่ง คือว่าเรื่องของดอกเบี้ย ก็ขอให้พักด้วยเพราะว่ารอบที่แล้วถึงจะพักเงินต้นแต่ว่าดอกเบี้ยยังคงเดินอยู่
ข้อเสนอข้อที่ 2 เท่าที่เราดูแล้ว มาตรการของภาครัฐยังแก้ไม่ได้ ก็คือ เรื่องหนี้นอกระบบ แน่แหละว่าพอเงินมันเริ่มฝืนมันเริ่มหมุนไม่ทัน แล้วเขาไม่สามารถไปกู้ในระบบได้ ไม่สามารถกู้จากธนาคารพาณิชย์ได้ เขาก็จะต้องเพิ่งหยิบยืมจากนอกระบบทั้งนั้น แล้วเราก็ทราบกันดีว่าเงินกู้นอกระบบดอกมันโหดมากแค่ไหน เจ้าหนี้ทวงดุแค่ไหน ตรงนี้ก็เลยเป็นปัญหาเร่งด่วนอีกปัญหาหนึ่ง ว่า เท่าที่มีอยู่ตอนนี้มีอยู่ 4 หน่วยงานที่พยายามแก้ปัญหาหนี้นอกระบบให้กับประชาชน แต่มันดูเหมือนกับว่า ความคืบหน้ามันไม่ไปถึงไหนประชาชนก็ยังต้องไปเพิ่งเจ้าหนี้นอกระบบ
ทุกวันนี้มีออมสิน กรุงไทย ที่พยายามที่จะให้เงินกู้สำหรับไปใช้หนี้นอกระบบแต่ว่าเขาก็ยังใช้เกณฑ์ตามปกติ ที่แบงก์พาณิชย์ชอบใช้ว่าคุณจะต้องมีรายได้เท่านั้นเท่านี้ ถ้าเกิดว่าเขาสามารถเข้าเกณฑ์นี้ เข้าก็ไม่ต้องไปเข้าเกณฑ์นอกระบบแล้ว ดังนั้น มันจะต้องเป็นเกณฑ์ที่ผ่อนปลนมากขึ้น ถือว่ามันเป็นการให้ชีวิตใหม่ให้กับคนที่ต้องตกระกำลำบาก และข้อเสนอข้อที่ 3 เราเห็นว่ายังมีภาระอะไรที่มันไม่ใช่ดอกเบี้ย ที่มันไม่ใช่เงินต้นอีกมากมายที่มันต้องการ การจัดการโดยเร่งด่วน ดังนั้น ทางคณะกรรมธิการพัฒนาเศรษฐกิจก็จะนัดประชุมกันเรื่องนี้ เพื่อที่จะเร่งรัดหาแนวทางมาตราการที่จะช่วยเหลือลูกหนี้ สำหรับการเยียวยาของท่านนายกรัฐมนตรีออกมาบอกว่าจะเร่งช่วยเหลือเยียวยาประชาชน นั้น ต้องบอกว่ารัฐบาลมีประสบการณ์มาค่อนข้างมาก ดังนั้น คราวนี้คุณไม่มีข้อแก้ตัวใด ๆ ทั้งสิ้นที่คุณจะทำพลาดอีก ดังนั้น เยียวยารอบนี้ ควรจ่ายตรงเป็นเงินสดให้กับ 50 ล้านคน ที่อายุเกิน 18 ปีขึ้นไป
ขอบคุณข้อมูลจาก EasyYukhon