เมื่อช่วงเวลาประมาณ 02.42 ของวันที่ 7 พ.ค. 64 เพจ Survive - สายไหมต้องรอด ได้ทำการไลฟ์สด ลงพื้นที่ ช่วยเหลือแม่ตกงานเพราะโควิด พ่อเป็นมะเร็ง มีลูก 5 คน หนึ่งในนั้นมีเด็กน้อยวัย 5 เดือน ไม่มีเงินจ่ายค่าบ้าน ถูกไล่ออกจากบ้านเช่า ต้องมาอาศัยนอนข้างถนน เมื่อคืนฝนกตก ต้องนอนตากฝน
ซึ่งรายละเอียดของครอบครัวนี้มีอยู่ว่า แม่ที่มีอาชีพขายน้ำดื่มตามท่ารถ หอบลูก 5 คน มานอนกางมุ้งข้างถนน เนื่องจากถูกเจ้าของบ้านเช่าไล่ออก เพราะไม่มีเงินจ่ายค่าเช่า ส่วนสามีก็ป่วยเป็นมะเร็ง ต้องกลับไปรักษาตัวที่บ้านเกิด
ภาพที่เห็นในไลฟ์สดนั้น ครอบครวนี้ ต้องอาศัยกางมุ้ง อยู่บริเวณคิวรถตู้ ข้างถนนหน้าตลาดกิมซ่า ตรงข้ามกับห้างฟิวเจอร์พาร์ครังสิต นอนอัดกัน 6 คน ตากฝนในมุ้งที่กางไว้ ซึ่งประกอบด้วย แม่ ลูกชาย ลูกสาว และหนูน้อยวัย 5 เดือน ช่วงเวลาที่ฝนตก แม่ต้องอุ้มลูกน้อยวัย 5 เดือนขึ้นมานอนบนหน้าอก ส่วนเด็กที่เหลือก็ต้องลุก มายืนหลบฝนบริเวณร่มของคิวรถตู้
ผู้เป็นแม่ เล่าว่า ครอบครัวของตนมีบ้านอยู่ที่ ต.บางพูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี แต่ตนได้ย้ายมาเช่าบ้านอยู่แถวรังสิต ได้ประมาณ 2 ปี เพราะว่าต้องทำงานแถวนี้ โดยการขายน้ำดื่มบริเวณท่ารถต่างจังหวัด หน้าห้างฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ก่อนหน้านี้ตนและสามีก็ทำมาหากินเลี้ยงลูกได้ปกติ แต่มาเจอช่วงโควิด ทำให้ขายของไม่ได้ เคราะห์ซ้ำกรรมซัด สามีมาป่วยเป็นมะเร็งลำไส้อีก จึงต้องให้ลับไปรักษาตัวที่บ้านญาติใน จ.ชัยภูมิ
เหตุที่ต้องหอบลูก 5 คนมานอนที่ข้างถนน เพราะไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าบ้าน จนทำให้ถูกเจ้าของบ้านไล่ออก จึงตัดสินใจเดินทางกลับไปที่บ้านที่ ต.บางพูน พอไปถึงพบว่าบ้านพังหมดแล้ว จึงต้องหอบลูกมานอนข้างถนน
ต่อมา เพจ Survive - สายไหมต้องรอด ได้ประสานไปยังบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดปทุมธานี ให้เข้าช่วยเหลือ เพราะเกรงว่าเด็กอาจจะป่วยได้เนื่องจากสภาพอากาศที่ฝนตกเกือบทุกวัน ล่าสุดทางบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดปทุมธานีได้รับครอบครัวนี้ เข้าไปอยู่ดูแลเป็นการชั่วคราวแล้ว
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก Survive - สายไหมต้องรอด