สืบเนื่องจาก นายอภิวัฒน์ ขันทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และทนายความนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายสุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล หรือ ฮาร์ท นักร้องดัง ในคดีประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และพ.ร.บ.ว่าด้วยกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560
ต่อมาทางด้าน ฮาร์ท สุทธิพงศ์ ได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านเฟสบุ๊ค Sutipongse Heart Thatphithakkul โดยระบุข้อความสั้นๆ ว่า “มีที่ไหนไหน นายกฯ ฟ้องประชาชน” ซึ่งภายหลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกมาไม่นาน ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็น และให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก
- ทั้งนี้ สำหรับต้นเหตุในเรื่องดังกล่าว สืบเนื่องจากการที่ นายสุทธิพงศ์ ได้โพสต์ข้อความ เมื่อวันที่ 11 พ.ค โดยมีเนื้อหาค่อนข้างหมิ่นเหม่ ระบุว่า “ยาเจ้านายขายไม่ออก สต๊อคไม่เคลื่อนที่ ลิ่วล้อต้องออกมาช่วยเรื่องการตลาด (ผมไปก๊อปคนอื่นเขามาอีกที) พร้อมติดแฮชแท็คว่า #ผูกขาดวัคซีนนี่ถ้าไม่เหี้ยมจริงทำไม่ได้นะ”
ล่าสุดวันนี้ทาง นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นายสุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล นักร้องชื่อดังโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่านายกฯฟ้องประชาชน ภายหลังตนเองและนายอภิวัฒน์ ขันทอง ผู้ช่วยรมต.ประจำสำนักนายกฯได้เข้าแจ้งความกล่าวโทษที่ สน.นางเลิ้ง โดยยืนยันว่าการเข้าแจ้งความครั้งนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับนายกฯ และนายกฯไม่ได้สั่งการใดๆ แต่ทำในนามส่วนตัวและในฐานะประชาชน ซึ่งใครจะเข้าแจ้งความตามมาตรา112 ย่อมได้
และการแจ้งความกล่าวโทษนายสุทธิพงศ์ ที่ สน.นางเลิ้ง เป็นการกล่าวโทษเพื่อให้เจ้าพนักงานสอบสวนดำเนินการตรวจสอบว่ามีความผิดตามมาตรา 112 หรือไม่ เพราะเป็นความผิดอาญาต่อแผ่นดิน ประชาชนทั่วไปใครจะไปร้องทุกข์กล่าวโทษก็ได้หากเห็นว่านายสุทธิพงศ์ ได้โพสต์ข้อความเข้าข่ายการหมิ่นสถาบัน ตามมาตรา 112 สามารถร้องได้ทุกจังหวัดทุกที่ในประเทศไทย
ดังนั้นการที่จะมาบอกว่านายกฯเป็นคนสั่งการนั้นไม่เป็นความจริง นายกฯไม่ได้สั่งการให้ไปดำเนินคดี เพียงแต่ตนเองและผู้ช่วยรัฐมนตรี นายอภิวัฒน์ฯเห็นว่าการโพสต์ของนายสุทธิพงศ์ นั้นประชาชนทราบดีว่ามีเจตนาที่จะกล่าวถึงสถาบันอย่างไร จึงเห็นว่าจะปล่อยให้นายสุทธิพงศ์ ได้โพสต์เช่นนี้ย่อมจะทำให้เสียหายต่อสถาบัน จึงได้ไปแจ้งความที่สน.นางเลิ้ง เพื่อมิให้บุคคลอื่นนำไปเป็นเยี่ยงอย่างในการกล่าวพาดพิงสร้างความเสื่อมเสียต่อสถาบันฯอีกต่อไป” นายเสกสกล กล่าว
นายเสกสกล ยืนยันว่าเป็นการไปส่วนตัว และมองว่าเรื่องนี้เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน จะให้สถาบันลงมาร้องทุกข์กล่าวโทษเองนั้นคงเป็นไปไม่ได้ จึงต้องเป็นหน้าที่ของประชาชนที่เห็นว่าใครจะก้าวล่วงหมิ่นสถาบัน ก็สามารถดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษได้ทันทีและยืนยันว่านายกฯไม่ได้สั่งการหรือบมอบให้ตนไปแต่ไปในฐานะประชาชนที่ต้องการปกป้องสถาบันดังนั้นขอให้เข้าใจตรงนี้ ขณะเดียวกันการที่ออกมาโพสต์กล่าวหานายกฯ เป็นการกล่าวหาดูหมิ่นนายกฯ ซึ่งถือว่าเป็นความผิดอีก เป็นข้อมูลอันเป็นเท็จและผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์อีกด้วยไม่สมควรจะทำอย่างยิ่ง
ขอบคุณข้อมูลจาก EasyYukhon