เมื่อวันที่ 22พ.ค. 64 ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Poramet Misomphop ได้นำเสนอเรื่องราวของเด็กหญิงคนหนึ่ง ที่ต้องทนทรมาน ทั้งร้างกายและจิตใจ กับความเจ็บปวดที่ดวงตา กว่า 9 ปี กับก้อนเนื้อที่ทะลัก ดันดวงตาข้างซ้ายจนมองไม่เห็นดวงตา และสภาพจิตใจที่เธอต้องถูกเพื่อนๆ ล้อ
น้องใบเฟริน เกิดมาด้วยร่างกายปกติ แต่แล้ว เมื่อเข้าอายุ 1 ปี น้องเริ่มมีอาการเคืองที่ดวงตา ข้างซ้าย คุณพ่อ คุณแม่เริ่มเห็นสิ่งปกติเกิดขึ้นที่ดวงตา เมื่อสังเกตุเห็นผิวหนังรอบดวงตา ที่อาการบวมขึ้นเล็กน้อย จึงพาลูกสาวไปรักษา ด้วยบัตร 30 บาท รักษาได้แค่ประคับประครอง ปัจจุบันน้องใบเฟริน มีอายุ 10 ปี ก้อนเนื้อดันกล่าวมีขนาดใหญ่ขึ้น จนไม่สามารถ มองเห็นลูกตาด้านซ้ายได้เลย ทำให้ดวงตาด้านซ้ายบอดมองไม่เห็น เวลานี้น้องยังคงรักษาด้วยบัตร 30 ปี ได้แค่ประคับประครองเวลาเจ็บปวดเท่านั้น
น้องเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษา ภายในอำเภอ ศรีขรภูมิ จังหวัด สุรินทร์ โดยคุณแม่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วนคุณพ่อมีอาชีพ ก่อสร้าง ต้องออกไปทำงานตามไซร์งานต่างๆ ตามต่างจังหวัด คุณพ่อ คุณแม่มีลูก 3 คน โดยที่น้องใบเฟรินเป็นคนกลาง คุณพ่อเล่าให้ฟังอีกว่า มันก็เจ็บ ปวดนะพี่ เวลาเห็นลูกตัวเอง ร้องไห้กับความเจ็บ ของเค้ายิ่งเค้ามาเล่าให้ฟังว่า มีบางเวลาลูกไปโรงเรียน แล้วเพื่อนๆ ล้อว่า ไอ้ตาโปน ถึงผมจะจน เป็นแค่กรรมกร แต่หัวอกคนเป็นพ่อ กับแม่ ก็ได้แต่ให้กำลังใจกับลูก
ส่วนเรื่องการรักษา สิ่งเดียวที่อยากได้มากที่สุด ไม่ใช้เงิน แต่อยากให้ลูก หายปกติ ไม่เจ็บ ไม่ปวด พี่เป็นพ่อคน ที่คงเข้าใจ ว่าเห็นลูกตัวเอง เจ็บ ปวด มันทรมาน แค่ไหน เบื้องต้นทางทีมงานเมศ ( คุณอีฟ ) ได้นำเงินจำนวนหนึ่ง มอบให้กับทางครอบครัว เพื่อช่วยเหลือเบื้องต้น เคสนี้จากที่ทีมงานลงพื้นที่พิจารณาดูแล้ว สิ่งเดียวที่ต้องช่วยกันมากกว่าเงินบริจาค คือ การที่รักษาน้องใบเฟริน ให้หาย
ล่าสุดวันนี้ ( 24 พ.ค. 64) มีความคืบหน้าว่า "ท่านผู้อำนวยการ รพ. ศรีขรภูมิ คุณหมอและ เจ้าหน้าที่ ได้ติดตามเรื่องราว และให้เจ้าหน้าที่พยาบาล ติดต่อสอบถามข้อมูล เรื่องราวดังกล่าว เวลานี้ทางท่าน ผู้อำนวยการ รพ. ได้ประสานงาน ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือ น้องใบเฟรินต่อไป เมศขอขอบคุณ ท่านผู้อำนวยการ รพ.ศรีขรภูมิ คุณหมอ และ เจ้าหน้าที่ทุกท่าน ที่ดำเนินการเข้าช่วยเหลือครับ และขอขอบคุณเพื่อนๆพี่ๆทุกท่านที่ใช้ปลายนิ้วเล็กๆ กดแชร์เรื่องราวดังกล่าว จนน้องกลับมามีความหวัง ได้รับความช่วยเหลือ จากทาง รพ. ครับ"
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก Poramet Misomphop