ตัวแทนนายกรัฐมนตรี ฟ้อง ชายผู้มีความบกพร่องทางสติปัญญา ข้อหาดูหมิ่นนายกรัฐมนตรีโดยการโฆษณา ทำให้นายกฯ ได้รับความเสียหาย เป็นการดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชังได้
วันที่ 27 พ.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า ที่ สน.นางเลิ้ง วีระชาติพงศ์ (สงวนนามสกุล) ผู้มีความบกพร่องทางสติปัญญา, พี่สาวผู้ไว้วางใจ พร้อมทนายความเครือข่ายของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหา “หมิ่นประมาทโดยโฆษณา” หลังถูกตัวแทนประยุทธ์แจ้งความให้ดำเนินคดี จากกรณีโพสต์ข้อความด่าทอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา บนเฟซบุ๊กส่วนตัว
โดยก่อนหน้านี้ วีระชาติพงศ์ ได้รับหมายเรียกของ สน.นางเลิ้ง ลงวันที่ 5 พ.ค. 64 ให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา “ดูหมิ่นโดยการโฆษณา” โดยคดีมี นายอภิวัฒน์ ขันทอง เป็นผู้กล่าวหา แต่เขาไม่สะดวกเดินทางไปในวันที่หมายเรียกระบุ จึงได้ประสานงานขอเลื่อนการรับทราบข้อกล่าวหาเป็นในวันนี้ พ.ต.ท.อธิชย์ ดอนนันชัย รอง ผกก. (สอบสวน) ได้แจ้งพฤติการณ์คดีว่า นายอภิวัฒน์ ขันทอง ประธานคณะกรรมการตรวจสอบและดําเนินคดีแก่ผู้เผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ค (คตส.) ตามคําสั่งของนายกรัฐมนตรีที่ 32/2563 ลงวันที่ 21 ก.ย. 63 ตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 64 เวลา 18.40 น. วีระชาติพงศ์ โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัวเป็นโพสต์สาธารณะ บุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ โดยเป็นถ้อยคำด่าทอ และมีภาพของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกอบด้วย
บันทึกแจ้งข้อกล่าวหาระบุว่า จากการโพสต์ข้อความดังกล่าวเป็นการดูหมิ่นนายกรัฐมนตรีโดยการโฆษณา ทำให้นายกฯ ได้รับความเสียหาย เป็นการดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชังได้ พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการดูหมิ่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 393 วีระชาติพงศ์ ให้การรับสารภาพว่าได้โพสต์ข้อความดังกล่าวจริงและจะไม่กระทำเช่นนั้นอีก และกล่าวขอโทษนายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งจะประพฤติเป็นคนดีของสังคม จากนั้น พนักงานสอบสวนได้ทำการเปรียบเทียบปรับเป็นจำนวนเงิน 2,000 บาท คดีจึงสิ้นสุดลง ทางกองทุนราษฎรประสงค์ได้ให้ความช่วยเหลือจ่ายเงินค่าปรับ เนื่องจากฐานความผิดดังกล่าวเกี่ยวกับการใช้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และตัวผู้ต้องหาเป็นผู้มีความบกพร่องทางสติปัญญา และทางครอบครัวก็ไม่มีกำลังทรัพย์พอ
อย่างไรก็ตาม การแสดงความคิดเห็น ไม่ว่าจะด้วยวาจาเป็นลายลักษณ์อักษรหรือการตีพิมพ์เป็นสิทธิเสรีภาพที่ในการแสดงออกและแสดงความคิดเห็นที่รัฐธรรมนูญของประเทศไทยและกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (International Covenant on Civil and Political Rights: ICCPR) รับรองไว้
ทั้งนี้ จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนพบว่า คดีนี้นับเป็นคดีที่ 4 แล้ว ที่อภิวัฒน์เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษให้ประชาชนที่วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในข้อหา “หมิ่นประมาทโดยโฆษณา”
ขอบคุณข้อมูลจาก EasyYukhon
