หมอธีระวัฒน์ เเนะ ควรหยุดกินยาคุมกำเนิด ก่อนฉีดวัคซีน เนื่องจากยาคุมกำเนิด ทำให้เกิดลิ่มเลือดง่าย ควรหยุดยา แต่ไม่ควรเลี่ยงฉีดวัคซีน
สำนักข่าว อีจัน รายงานว่า จากกรณีชาวเน็ตรายหนึ่ง ออกมาโพสต์เปิดเผยเรื่องราวของเพื่อนของเธอที่กินยาคุม ก่อนเสียชีวิตลง หลังฉีดวัคซีน โดยพบลิ่มเลือดในปอด จนชาวเน็ตที่ติดตามข่าวเกิดความไม่สบายใจ ว่าหากทานยาประจำตัวหรือให้ฮอร์โมนอยู่ เมื่อฉีดวัคซีนแล้วจะได้รับอันตรายถึงชีวิตหรือไม่
เรื่องนี้ สำนักข่าว อีจัน ได้โทรไปสัมภาษณ์ นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ศาสตราจารย์เชี่ยวชาญทางอายุรศาสตร์และทางระบบประสาท ซึ่งได้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงของยาคุมกำเนิดกับการฉีดวัคซีนว่า เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นเป็นผลข้างเคียง หรือผลแทรกซ้อนของวัคซีน ในแง่ของลิ่มเลือด ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ ซึ่งพบว่าทำให้เกิดภาวะภูมิคุ้มกันแปรปรวน กระตุ้นให้เกร็ดเลือดผิดปกติ อีกทั้งยังกระตุ้นให้เกิดเลือดข้น ทำให้ลิ่มเลือดอุดตันในที่ต่างๆ หรือหลุดลอยไปในปอด
ภาวะต่างๆเหล่านี้ เป็นไปได้สูงในผู้หญิงที่ใช้ฮอร์โมนผู้หญิงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นยาคุมกำเนิด หรือโรคบางอย่างที่ต้องใช้ฮอร์โมนเพศเข้ามาช่วย ซึ่งกรณีนี้ถือเป็นว่าเรื่องปกติที่พบอยู่ ซึ่งผู้หญิงรายใดที่ใช้ฮอร์โมนเพศ แล้วเกิดมีลิ่มเลือดตัน ผสมกับการได้รับวัคซีน ก็อาจทำให้มีผลข้างเคียงสูงขึ้น
ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องป้องกัน เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่าจะเกิดกับวัคซีนชนิดไหน ทางที่ดีควรหยุดไปสักประมาณ 1 เดือน ถ้าหยุดไม่ทันก็หยุดก่อน 14 วัน ก่อนฉีดวัคซีน และหลังจากฉีดแล้วอีก 14 วัน เพื่อความปลอดภัย ไม่ได้หมายความว่าห้ามฉีดวัคซีน
การทานยารักษาโรคประจำตัว เช่น ความดัน,ไขมัน,เบาหวาน ,ซึมเศร้า หรือ น้ำมันกัญชา นั้น ไม่ส่งผลทำให้เกิดผลข้างเคียงแต่อย่างใด ส่วนยาที่ทำให้ลิ่มเลือดหดเกร็ง ยาแก้ปวดไมเกรน ยาแพ้แพ้ ยาแก้หวัดคัดจมูก ซึ่งไม่ใช่ทุกชนิด ยาจำพวกนี้ควรงดรับประทานก่อนฉีดวัคซีน 14 วัน หรือหยุดทานช่วงที่ได้รับวัคซีน อย่าหลีกเลี่ยงการฉีดวัคซีน ให้หยุดยาไปชั่วคราวก่อน เพื่อความปลอดภัย
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก อีจัน
