สำนักข่าวอีจันเผยคลิป จากโทรศัพท์มือถือที่ลูกจ้างในฟาร์มจำหน่ายหมูในพื้นที่ อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น ถ่ายเอาไว้ ความยาว 38 วินาที เป็นเหตุการณ์ ที่ชายคนหนึ่งกำลังโวยวาย ชี้หน้าต่อว่า ลูกจ้างฟาร์มหมูเสียงดัง จนลูกจ้างฟาร์มหมูต้องเอี้ยวตัวหลบกระสุน หลังจากที่ชายคนนั้นคว้าปืนมาขู่ เพราะต้องการซื้อหมูในราคา 1,300 บาท แต่ทางฟาร์มไม่สามารถขายให้ได้ เนื่องจากราคาหมูพุ่งสูงถึง 2,500 บาทแล้ว
ชายคนนั้นจึงใช้อาวุธปืนยิงขู่หลายนัด ทั้งยิงขวดเบียร์ ยิงแก้ว จนหมดแม็ก โดยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ชายที่ถือปืนบอกว่า “มึงจะตายด้วยน้ำมือกูเดี๋ยวนี้แหละ มึงรวยเหรอ มึงรู้ไหม ลูกกูเป็นใคร”
ซึ่งฟาร์มดังกล่าว ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านทุ่งแสง ต.สงเปือย อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น ผู้สื่อข่าว ได้พบกับนายวิทยา โพธิ์จันนา อายุ 48 ปี เจ้าของฟาร์ม เปิดคลิปขณะเกิดเหตุและร่องรอยกระสุนเจาะแก้ว พร้อมทั้งปลอกกระสุนและหัวกระสุนตกอยู่ในที่เกิดเหตุให้ดู พร้อมเล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. ของวันที่ 28 ธ.ค.64 ที่ผ่านมา ขณะนั้นตนไม่อยู่ฟาร์มไปทำธุระที่ จ.มหาสารคาม มีเพียงลูกจ้างที่ฟาร์มคอยขายหมูให้กับลูกค้าที่เดินทางเข้ามาซื้อจำนวน 4-5 คน
ชายที่ถือปืนในคลิปคือ นายไหม อายุ 67 ปี อดีตลูกจ้างในฟาร์ม ซึ่งลาออกไปเปิดกิจการขายหมูเป็นของตัวเองเมื่อช่วงเดือนมีนาคม 64 ที่ผ่านมา ขับรถยนต์มาจอดที่ฟาร์มแล้วยิงปืนขึ้นฟ้าต้อนให้ลูกน้องของตนที่อยู่ฟาร์ม 4-5 คนให้มารวมกัน โดยนายไหมได้สั่งหมูป่า 1 ตัว ราคา 1,300 บาท เอาไซส์ใหญ่ ซึ่งสั่งผ่านแฟนนายไหมที่ทำงานอยู่ฟาร์ม สั่งเป็นเดือนสองเดือนแล้ว แต่ลูกน้องที่ขายไม่ได้รู้เรื่องด้วย และไม่รู้ว่านายไหมสั่งอะไรกับใคร ไม่ได้มีใครมาบอกว่า ต้องขายให้นายไหมราคาเท่าไหร่ และราคา 1,300 บาทที่นายไหมต้องการหมูไซส์ใหญ่นั้น ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะขายในราคานี้ เพราะหมูไซส์ใหญ่ราคาต้นทุนอยู่ที่ 2,500 บาทแล้ว
นายไหมได้สั่งซื้อผ่านแฟนตัวเองที่เป็นลูกน้องทำงานอยู่ที่ฟาร์มจะนำไปเลี้ยงฉลองปีใหม่ ซึ่งแฟนนายไหมไม่กล้าขายให้ เพราะไม่ใช่เจ้าของร้าน และไม่รู้ราคา ซึ่งก่อนที่นายไหมจะมาที่ฟาร์มนั้น นายไหมได้ทวงถามกับแฟนเรื่องหมูที่สั่งแล้ว แฟนบอกว่า ต้องให้ลูกน้องอีกคนที่รู้ราคาและมีหน้าที่รับหมูมาขายเป็นคนมาขายให้ จึงเกิดความไม่พอใจใช้อาวุธปืนไล่ยิงแฟน จนแฟนต้องหนีเข้าป่าอ้อยเพื่อเอาชีวิตรอดก่อนจะมาก่อเหตุดังกล่าว
โดยหมูป่าที่ฟาร์มรับมาขาย ทั้งช่วงปกติและช่วงเทศกาลนั้น ตนได้มอบอำนาจให้ลูกน้องในคลิปเป็นคนตัดสินใจทั้งหมดว่า รับมาเท่าไหร่และขายเท่าไหร่ ซึ่งแม้แต่ตนเองยังไม่ทราบราคาหมูแต่ละตัวที่รับมาด้วยซ้ำ และไม่ได้สั่งผ่านลูกน้องชายคนนี้แต่ไปสั่งผ่านแฟนนายไหมซึ่งไม่มีอำนาจตัดสินใจในการขายหมู ทำให้นายไหมไม่พอใจชักปืนที่ถือมาด้วยยิงไปทั่วร้าน โชคดีที่ไม่มีใครถูกยิงหรือได้รับบาดเจ็บ
ช่วงที่นายไหมกำลังจะกลับ ลูกน้องได้โทรแจ้งตำรวจ และตำรวจได้โทรศัพท์ไปบอกลูกชายนายไหมให้พาพ่อออกไป หลังจากนั้น ลูกชายนายไหมจะขับรถมาตามที่หน้าฟาร์ม ทำให้จังหวะนั้น ลูกน้องของตนเองรีบวิ่งหนีเข้าป่าไป ส่วนนายไหมเห็นลูกชายมาเรียกจึงยอมขับรถออกจากฟาร์มไป ซึ่งขณะเกิดเหตุมีคนงานอีกคนได้ยกมือถือบันทึกภาพไว้ แต่ไม่ได้ถ่ายยาวเนื่องจากกลัวจะได้รับอันตราย
ต่อมาเมื่อวันที่ 3 ม.ค.65 ที่ผ่านมา ตำรวจได้เรียนก นายไหม มาไกล่เกลี่ยที่โรงพักกับเจ้าของฟาร์ม และ ลูกน้องที่อยู่ในเหตุการณ์ โดยได้เรียกค่าเสียหายและค่าทำขวัญเป็นเงิน 300,000 บาท แต่นายไหมไม่ยอม และไม่มีทีท่าว่าจะสลดหรือกลัวแต่อย่างใด ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปยังไม่สามารถตกลงกันได้
กระทั่งตำรวจได้เรียกพยานไปสอบสวน 2 ปาก และบอกว่าเพียงพอแล้วสำหรับการดำเนินคดี ซึ่งเวลาผ่านไปเกือบ 2 สัปดาห์ เรื่องยังเงียบคนก่อเหตุก็ยังลอยนวล ถือปืนเพ่นพ่านในพื้นที่ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำให้ตอนนี้ได้รับความเดือดร้อน ธุรกิจดำเนินการต่อไม่ได้ ลูกน้องเกิดความกลัวไม่กล้ามาทำงาน จำหน่ายหมูป่าส่งให้ลูกค้าตามออร์เดอร์ไม่ได้ ขาดรายได้ช่วงปีใหม่กว่า 100,000 บาท ซึ่งเป็นช่วงทำเงิน อยากฝากตำรวจ สภ.ภูเวียง อันดับแรกอยากให้เอาปืนออกจากมือนายไหมก่อน เพราะลูกน้องไม่กล้ามาทำงานตั้งแต่วันเกิดเหตุที่ 28 ธ.ค. 64 กระเจิดกระเจิงไปคนละทิศทาง งานไม่เดินตั้งแต่วันเกิดเหตุจนถึงวันนี้ ธุรกิจส่งหมูแปรรูปก็หยุดชะงัก
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก อีจัน
