จากกรณีดราม่า ไพรวัลย์ วรรณบุตร ประกาศยุติบทบาทพิธีกรและเดินออกกลางรายการ "นินทาประเทศไทย" จนเกิดเป็นกระแสถูกโจมตีและวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก อีกทั้งยังมีการขุดอดีตสมัย ที่ทิดไพรวัลย์ บวชเป็นพระด้วยว่าทำแบบนี้เหมาะสมแล้วหรือไม่
โดยแชทดังกล่าวยังไม่ได้รับการตรวจสอบแน่ชัดว่า เป็นแชทจริงหรือแชทที่ปลอมขึ้นมา เพื่อดิสเครดิต ทิดไพรวัลย์ ซึ่งใจความสำคัญในแชทดังกล่าวทางเจ้าของสินค้าได้สอบถามค่าใช้จ่ายในการวางผลิตภัณฑ์ขณะไลฟ์สด ซึ่งเป็นลักษณะ Tie-in ไม่ใช่ราคาสำหรับรีวิว เพราะทางผู้จัดการ ทิดไพรวัลย์ แจ้งชัดเจนว่า เป็นการวางประกอบฉาก จะมีพูดถึงบ้างแต่ไม่มาก
สำหรับรายละเอียด เรทราคาสำหรับวางผลิตภัณฑ์ไว้เฉยๆ อยู่ที่ครั้งละ 1 หมื่นบาท แต่ถ้าเหมาทั้งเดือนอยู่ที่ 1 แสนบาท ซึ่ง ผู้จัดการของ ทิดไพรวัลย์ บอกว่า 1 เดือน ไลฟ์เกิน 10 ครั้งอยู่แล้ว เท่ากับเหมือนเป็นการชักชวนให้จ้างแบบรายเดือนถึงจะคุ้มค่ากว่า
อย่างไรก็ตามจากบทสนทนา มีคนที่จ้างแบบเหมาทั้งเดือนไปแล้วด้วย นอกจากนี้ยังมีอีกประเด็นที่ทางผู้ปล่อยแชทดังกล่าวออกมาตั้งข้อสังเกตอีกด้วยว่า สมัย ทิดไพรวัลย์ เป็นพระ มีการนำภาพที่แฟนคลับทำให้ไปตีพิมพ์เป็นปฏิทินเพื่อจำหน่าย โดยที่ไม่ได้บอกก่อนว่าจะเอาผลงานเหล่านั้นมาใช้ในเชิงพานิชย์
จากเหตุการณ์ดังกล่าวทางเพจ Khaopod - ข่าวปด 2HD ได้ระบุว่า "น้ำลดตอผุด
รวมประเด็นเคลือบแคลงในอดีตที่ไม่เคลียร์ของทิดคนดัง
1. ไลฟ์สอนธรรมะตอนที่ยังบวชอยู่ แต่แฝงการ Tie-In สินค้า โดยเรียกรับเงินจากแบรนด์ต่างๆ โดยคิดราคา 2 เรท รายครั้งและรายเดือน โดยรายครั้งจะราคาสูงกว่าเช่น 10,000 บาท รายเดือน 100,000 บาท เพื่อจูงใจให้เจ้าของสินค้าไปใช้แบบรายเดือน
โดยวางสินค้าให้เห็นในไลฟ์ ทำแบบเนียนๆ เหมือนของที่เอามาตั้งไว้เฉยๆ
มีการตั้งคำถามว่า "เหมาะสมมั้ย" กับการที่อาศัยผ้าเหลืองมาทำธุรกิจไม่ต่างจากฆารวาส แต่ได้รับสิทธิพิเศษต่างๆ เช่น เรื่องภาษีที่ไม่ต้องจ่ายจากรายรับที่เข้ามา ซึ่งบรรดา influencer คนอื่นก็ต้องเสียภาษีในส่วนนี้เช่นกัน
2. นำรูปแฟนเมด / รููปประกอบคำสอน ที่แฟนคลับทำให้ ไปตีพิมพ์ทำเป็นปฏิทินขายโดยที่ไม่แจ้งกับเจ้าของผลงานว่าทำออกมาในเชิงพานิชย์
ซึ่งทางแฟนคลับท่านดังกล่าวกังขาว่า ทำไมจะทำออกมาแต่ไม่ยอมบอกกล่าวเจ้าของผลงานเลยสักคำ
ประเด็นทั้ง 2 มีคนฝากถามมานะครับ ไม่กล้าถามในตอนแรกเพราะตอนนั้นบาเรียกางหนาแน่น กลัวว่าถามไปแล้วบาเรียจะเป็นแบบสะท้อนการโจมตีกลับ ตอนนี้บาเรียหายไปแล้ว เลยถามครับ
จากนั้นไพรวัลย์ วรรณบุตร ก็ได้ชี้แจงผ่านทางเพจว่า "ผมเห็นแล้วนะครับ ที่เป็นข่าวเรื่องแชทเรทราคาวางสินค้าตอนเป็นพระ ซึ่งลูกศิษย์ผมคุยกับเจ้าของแบรนด์ๆ หนึ่ง ซึ่งตอนนั้นทั้งอ้อนวอนทั้งขอร้องเหลือเกิน เพราะอยากจะเอาสินค้าตัวเองมาวางไว้ในโต๊ะไลฟ์สดของผมให้ได้
ผมไม่แก้ตัวแก้ต่างอะไรให้ตัวเองนะครับ เพราะที่ให้ลูกศิษย์ตกลงกับเจ้าของแบรนด์เช่นนั้น นั่นเพราะผมเข้าใจว่าทำได้ หลังจากที่ผมเข้าพบ กมธ. ที่รัฐสภาแล้ว ผมจำได้แม่นว่า อาจารย์สมปองได้ถามเรื่องการที่เจ้าของแบรนด์ต่างๆ จะให้การอุปถัมภ์ในการทำงานด้านการเผยแผ่ของพวกเรา และกมธ. ในวันนั้นตอบว่า ทำได้ครับ ภายหลัง เมื่อเกิดการวิจารณ์ในวงกว้าง เราก็หยุดครับ ไม่รับการอุปถัมภ์จากแบรนด์สินค้าไหนอีกเลย
อันหนึ่งที่ผมอยากพูด และอยากฝากไปถึงเจ้าของแบรนด์ๆ นั้น ก็คือว่า พี่ก็รู้นะครับว่า ตอนนั้น ผมมีทีมงาน 4 คน ผมต้องเลี้ยงดูลูกศิษย์ ทั้งเรื่องทุนการศึกษา ที่พัก อาหารและอื่นๆ อีกมากมาย ผมจ่ายเงินเดือนให้พวกเขา และก็หลงดีใจว่า แบรนด์ต่างๆ ที่เข้ามามองเห็นจุดนี้ จึงอยากมีส่วนในการช่วยอุปถัมภ์ร่วมกัน
การตกลงใดๆ ก็ตาม แม้ผมไม่ได้เป็นผู้สนทนาด้วยตนเอง ผมถือว่าเป็นเรื่องระหว่างผู้เสนอกับผู้รับเรื่องนะครับ เป็นความพึงใจของสองฝ่าย ซึ่งโดยมารยาทที่ดีแล้ว เราจะไม่นำมาเปิดเผย ผมไม่อาจทราบเจตนาได้นะครับว่า ที่แบรนด์ๆ หนึ่ง เอาแชทที่ได้คุยกับลูกศิษย์ผมมาเปิดเผยเช่นนี้ ต้องการอะไร หรือมุ่งหวังผลในทางไหน
ขอโทษนะครับ ถ้าผมทำอะไรที่ไม่พึงใจให้ แต่สิ่งที่ผมอยากอธิบายมีแค่นี้"
ขอบคุณ คมชัดลึก ไพรวัลย์ วรรณบุตร และ Khaopod - ข่าวปด 2HD