จากเหตุการณ์นักเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน ฝึกระโดดร่ม แล้วเกิดอุบัติเหตุร่มไม่กาง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 บาดเจ็บสาหัส 1 บาดเจ็บ 2 รวมทั้งหมด 5 คน เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2557 ซึ่งนับจากวันนั้นจนถึงวันนี้ ผ่านมาแล้วถึง 8 ปี
ล่าสุด ทนาย อนันต์ชัย ไชยเดช ได้ออกมาโพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊กถึงความคืบหน้าของคดีดังกล่าว โดยระบุข้อความว่า "คดีนักเรียนนายร้อยกระโดดร่มไม่กาง ความยุติธรรมบังเกิดแล้วครับ ผมได้เรียกร้องความยุติธรรมให้กับน้องโยโย่ และน้องฟิวส์ สำเร็จแล้วครับ
ผมได้ทำหน้าที่ทนายความให้กับคุณสาธร พุทธชัยยงค์ สมบูรณ์แบบแล้ว ดีใจสุด ๆ ครับ หลังรอคอยมาเป็นเวลา8ปี วันนี้ได้รับความยุติธรรมแล้ว พิพากษาจำคุกจำเลยที่ 2 ถึง 9 เป็นเวลา 4 ปี ไม่รอลงอาญา
จากกรณีนักเรียนนายร้อยตำรวจสามพรานฝึกกระโดดร่ม แล้วเกิดเหตุร่มไม่กาง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บสาหัส 1 บาดเจ็บ 2 รวม 5 คน ผู้ปกครองของน้องโยโย่ 1 ในผู้เสียชีวิต ได้ยื่นฟ้องคดีอาญาต่อศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 โดยมี นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความได้ช่วยเหลือในคดี
วันนี้(วันที่ 8 มีนาคม 2565) เวลา 9.00น. นายสาธร พุทธชัยยงค์ (คุณพ่อน้องโยโย่)ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษา ที่ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 ศาลอาญาฯ ได้มีคำพิพากษาว่า จำเลยที่ 2 ถึงที่ 9
โดยมี นายสมชาย อำภา , จ.อ.กีรดิต สุริโย , นายรัชเดช เถาว์เพ็ง , นายวัชรพงษ์ วงศ์สุบรรณ , พ.ต.อ.อโนทัย ศาสตร์สง่า, พ.ต.อ.ประพงษ์ ภูฮง ,ร.ต.อ.พิพัฒน์ เยาวเรศ และนายสุพร ธนบดี
มีความผิดฐานประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับอันตรายสาหัสตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 291 (เดิม) 300 (เดิม) เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
อันเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุกคนละ 4 ปี ไม่รอลงอาญา และยกฟ้องจำเลยที่1 ร.อ.กณพ อยู่สุข เนื่องจากศาลเห็นว่า ไม่มีหน้าที่กำกับดูแล ควบคุมการติดตั้งและไม่ได้อยู่ในขณะติดตั้ง จึงไม่มีความผิด
หลังฟังคำพิพากษา นายสาธร พุทธชัยยงค์ คุณพ่อน้องโยโย่ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ผลของคำพิพากษาวันนี้ จากที่ผมต่อสู้มาเป็นเวลา8ปี พบเจออุปสรรคมากมาย วันนี้หลังจากที่ได้ฟังคำพิพากษา ทำให้ผมเห็นแสงสว่างในกระบวนการยุติธรรม และท้ายที่สุดผมขอยกความดีความชอบให้ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ที่ท่านได้ช่วยเข้ามาทำคดีนี้และทำด้วยหัวใจของคนเป็นพ่ออย่างแท้จริง"
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก ทนาย อนันต์ชัย ไชยเดช