นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่โลกออนไลน์ต่างวิพากษ์วิจารณ์ กรณีพระอุเทน สิริสาโร เจ้าอาวาสวัดท่าไม้ จ.สมุทรสาคร มีการบวชพราหมณ์ให้กับ 2 ผู้ต้องหาในคดีอาญา ที่อยู่บนเรือสปีดโบร์ตจนแตงโม นิดา เสียชีวิต กระแสสังคมมองว่า การบวชให้ผู้ต้องหาดังกล่าวเป็นสิ่งที่เหมาะสมหรือไม่ จนมีลูกศิษย์ออกมาแกะสติ๊กเกอร์หลังรถออกจำนวนมากนั้น
ล่าสุดโซเชียลมีเดียได้วิพากษ์วิจารณ์ภาพตู้รับบริจาคของวัดท่าไม้ วางสูงเรียงกัน 20 กล่อง เป็นกล่องใสมองเห็นเงินบริจาคภายใน แต่ที่น่าสังเกตคือแต่ละกล่องจะมีคำอธิษฐานที่อยากได้จากการทำบุญ 20 กล่อง 20 คำขอ จัดไปตามใจปรารถนา โดยมีคำอธิษฐานจากตู้ที่สร้างความแปลกตาและแปลกใจแก่ประชาชนอย่างมาก เช่น ขอให้ถูกหวยเบอร์ใหญ่ ขอให้สบาย ขอให้มีแฟนรวย ๆ นั่งกินนอนกิน ขอให้เจอเนื้อคู่ ขอให้แฟนรักแฟนหลง ขอให้ได้สมบัติของคนอื่น, ขอให้ได้มรดก, ขอให้มีเสน่ห์ เป็นต้น
คำอธิษฐานต่างๆ ที่ติดอยู่หน้ากล่องดังกล่าว ไม่ใช่กุศโลบายที่จะใช้ลองใจผู้มาปฏิบัติธรรมแต่อย่างใด หากแต่เป็นพุทธพาณิชย์ หากินกับความลุ่มหลงเพ้อฝันของประชาชน ซึ่งขัดกับหลักธรรมคำสอนของศาสนาพุทธหลายประการ เป็นการทำดีเพื่อหวังผลตอบแทนอย่างชัดเจน ไม่ได้บริจาคเงินทำบุญด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ แต่ละตู้ล้วนเห็นแก่ตัว เป็นการขอเพื่อตัวเองทั้งนั้น ซึ่งการบริจาคการให้ทาน คือการให้ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่หวังผลตอบแทนโดยหมายให้ผู้ได้รับได้พ้นจากทุกข์ คลายความตระหนี่ ความเห็นแก่ตัว ความโลภในจิตใจมนุษย์ ส่งผลให้เกิดความใส สว่าง สะอาดของจิตใจขึ้นมา
แต่ทว่าข้อความตามตู้บริจาคทั้งหลายกลับไปสร้างความโลภให้กับผู้ทำบุญอีกด้วย อาทิ ขอให้ได้สมบัติของคนอื่น และ ขอให้ได้มรดก ซึ่งต้องมีคนในครอบครัวเสียชีวิตก่อนถึงจะได้ แต่ละอย่างไม่สอนให้ทำมาหากินเลยหรืออย่างไร
กรณีดังกล่าว เป็นการกระทำหรือกุศโลบายที่ทำให้พระศาสนาเสื่อมลงถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปในทางลบ ไม่เป็นผลดีต่อพระพุทธศาสนา ซึ่งรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 67 บัญญัติให้รัฐต้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา พึงส่งเสริมการเผยแผ่หลักธรรมของพระพุทธศาสนาเพื่อให้เกิดการพัฒนาจิตใจและปัญญา มิใช่สอนให้คนเห็นแก่ตัว ก่อเกิดความโลภแต่อย่างใด
ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้เข้าไปดำเนินการตรวจสอบและสั่งให้วัดท่าไม้ยุติการทำหรือใช้ถ้อยคำบนตู้บริจาคในลักษณะดังกล่าวเสีย และขอให้คาดโทษผู้บริหารวัดและผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไปด้วย
ล่าสุด นายศรีสุวรรณ จรรยา ก็ได้ออกมาโพสต์เพิ่มเติมว่า "เห็นป้ายบอกทางที่วัดท่าไม้ทำเยี่ยงนี้แล้วหดหู่ใจ จะอ้างเป็นกุศโลบายธรรมอะไรอีกไหมล่ะ แต่ที่แน่ๆในฐานะที่เป็นพุทธมามกะคนหนึ่งรับไม่ได้กับวิธีการเยี่ยงนี้ครับ…เดี๋ยวเจอกันอีกดอก… พวกอลัชชีทั้งหลาย"
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก ศรีสุวรรณ จรรยา
