จากกรณีที่ เอ๋ ปารีณา อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ถูกศาลฎีกาพิพากษาให้พ้นจากการเป็น ส.ส. ทันที และตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต ได้มาเปิดใจในรายการ คุยแซ่บ Show รวมถึงเส้นทางการใช้ชีวิตคู่และความเปลี่ยนไปของนิสัยใจคอ ที่ผู้คนมักเห็นว่าขณะเป็นนักการเมืองจะมีภาพลักษณ์ที่ตอบโต้ด้วยวาจาที่ตรงไปตรงมา

เอ๋ ปารีณา ได้กล่าวย้อนไปในสมัยก่อนที่ยังอยู่ในเส้นทางการเมืองว่า หลายคนจะรู้ดีว่า แต่ก่อนจะเป็นคนเงียบ ๆ ไม่ค่อยพูดเหมือนคนไม่มีปาก หลังจากหย่าร้างไปแล้วก็กลายเป็นคนพูดมากปากจัด จนเพื่อนถามว่าเกิดอะไรขึ้นหลังหย่า

เอ๋ ปารีณา เผยว่า มันออโตเมติก เพราะช่วงที่แต่งงาน ตอนอยู่กับสามีแรก ๆ ก็จะคุยกับสามีว่า พี่คะทำไมกลับดึกจัง พอผ่านไป 6-7 เดือนก็กลายเป็น เมื่อคืนไปไหนมา พอผ่านไปอีกก็ ไอ้... หายไปไหนมา หลังจากนั้นการพูดจาก็เลยติดมา แม้จะเป็นคนไม่ค่อยพูด แต่ก็เป็นคนพูดตรง

โดย เอ๋ ยังบอกอีกว่า คบมา 6-7 ปี โปรหมดตั้งแต่ปีแรก เป็นคนให้เสรีภาพ มองว่าการมีกิ๊กเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่การเอาใจใส่ครอบครัว การบริหารเวลาเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งปัญหาที่ทะเลาะกับสามีส่วนใหญ่มักมาจากการตั้งคำถาม ซึ่งก็จะได้คำตอบที่ฟังไม่ขึ้น

ยกตัวอย่างเช่น เคยไปหาโดยไม่บอก ไปเห็นห้องนอนที่หมอนมันบุ๋ม 2 ใบ เลยถามว่า ใครมานอน และได้คำตอบว่า ถ้าหมอนบุ๋มเดี๋ยว แปลว่ามีอะไรกัน แต่ถ้าหมอนบุ๋มทั้ง 2 ใบก็แปลว่าแยกกันนอน ไม่ได้มีอะไรกัน

นอกจากนี้ เอ๋ ปารีณา ก็ได้กล่าวถึงอดีตสามีว่า สาเหตุที่ตัดสินใจแต่งงานด้วยก็เพราะว่า เป็นคนน่ารัก ถ้าในสถานะเพื่อนก็คือดีมาก แต่ในสถานะคนรักก็ต้องดูว่าจะปรับตัวเข้าหากันได้มากน้อยแค่ไหน

ทุกคนล้วนไม่สมบูรณ์ แต่ต่างคนต่างไม่ยอมรับความไม่สมบูรณ์ของกันและกัน จะปรับจูนกันก็ไม่มีโอกาส สุดท้ายก็ต้องแยกย้ายกันไป

ขอบคุณ