โรงพยาบาลพริ้นซ์ อุบลราชธานี โดยคณะแพทย์ผู้ได้รับมอบหมายจากคณะศิษย์ หลวงปู่แสง ผู้ดูแลให้การรักษาหลวงปู่แสงฯ มากว่า 20 ปี ได้จัดแถลงข่าวในวันนี้ (14 พ.ค. 65) ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 2 โรงพยาบาลพริ้นซ์ อุบลราชธานี

คณะแพทย์ ประกอบด้วย
1. นายแพทย์ เศวต ศรีศิริ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลพริ้นซ์ อุบลราชธานี
2. นายแพทย์ สมฤทธิ์ เวียงสมุทร นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ โรงพยาบาลหัวตะพาน อำนาจเจริญ
3. นายแพทย์ ปิยวัฒน์ จิรัปปภา รองผู้อำนวยการ โรงพยาบาลพริ้นซ์ อุบลราชธานี
4. นายแพทย์ พงษ์พัฒน์ พิมพ์สะ นายแพทย์ชำนาญการ

ซึ่งทางเพจ Drama-addict ได้สรุปข้อมูลของทีมแพทย์ ไว้ว่า "[live update] ทางคณะแพทย์แถลงเรื่องอาการอาพาธ ดังนี้
- แพทย์เล่าว่า ในช่วงแรกที่เข้าไปให้การดูแลทางการแพทย์กับหลวงปู่แสง หลวงปู่แสงจะห้ามไม่ให้ผู้หญิง เช่น พยาบาลหญิง จับเนื้อต้องตัวเด็ดขาด ต้องเป็นพยาบาลชายเท่านั้น แพทย์เล่าว่า พระเกจิท่านอื่น อาจมีการอนุโลมให้พยาบาลแตะตัวได้เวลาอาพาธ แต่หลวงปู่แสงไม่ให้แตะเลย

- ในช่วงแรกที่เข้าให้การดูแล ปัญหาด้านสุขภาพของหลวงปู่แสงมี โรคชรา เช่น ปวดข้อ กระดูกเสื่อม และโรคเรื้อรัง คือ ความดันโลหิตสูง ต่อมลูกหมากโต และการติดเชื้อ ปอดบวม และติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ (พบบ่อยในเคสที่ต่อมลูกหมากโต) ช่วงหลังมีการใช้ยารักษาโรคหลายตัวมาก และมีหมอเข้าดูแลหลายทีม แต่ละทีมเลยมาคุยกันว่าจะทำข้อมูลการรักษาร่วมกันเพื่อป้องกันปัญหาได้รับยาซ้ำซ้อน
- ช่วงหลังหลวงปู่เริ่มมีปัญหานอนไม่หลับ ต้องใช้ยานอนหลับหลายตัว
- ปัญหาสุขภาพช่วงหลัง มีเรื่อง หัวใจล้มเหลว และ ลำไส้อุดตัน (จากประวัติเคยผ่าตัดรักษาไส้ติ่งสมัยก่อน)

-กลางปี 2561 พระที่ดูแลหลวงปู่แสง แจ้งแพทย์ว่า หลวงปู่มีอาการแปลกๆ คือเริ่มมีการแตะเนื้อต้องตัวผู้หญิง ซึ่งแพทย์ตกใจมาก เพราะพฤติกรรมหลวงปู่แสงปรกติที่เคยเห็นมาคือท่านเคร่งเรื่องนี้มาก แพทย์สันนิษฐานว่า เป็นการพฤติกรรมเปลี่ยนเพราะสมองเสื่อม ซึ่งทำให้พฤติกรรมและอารมณ์เปลี่ยนแปลงไป ต้องเข้ารับการตรวจหาสาเหตุ
-หลังจากนั้นแพทย์ขาดการติดต่อกับทางหลวงปู่แสง ประมาณหนึ่งปี เพราะหลวงปู่ช่วงนั้นย้ายวัดหลายที่ หลังจากนั้นหนึ่งปีแพทย์เข้าพบหลวงปู่อีกครั้ง พบว่า คนรอบกายหลวงปู่เปลี่ยนทีมไป จากของเดิม พระที่ดูแลจะเป็นพระชุดเดิม ที่มีการบันทึกยา บันทึกอาการหลวงปู่ ไว้แจ้งแพทย์ตลอดว่าอาการเป็นยังไง ต้องปรับการรักษายังไง แต่รอบนี้เป็นพระชุดใหม่ และไม่ค่อยมีการบันทึกข้อมูลเหล่านี้ให้แพทย์รับทราบ

-หลังหลวงปู่ย้ายไปจำวัดที่เชียงใหม่ อาการของหลวงปู่แสงมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไป คนที่ดูแลจึงพาไปรักษา ใน รพ ที่เชียงใหม่ ได้ตรวจเลือด ทำ MRI สมอง พบว่า เส้นเลือดสมองตีบ สมองฝ่อ สมองบางส่วนขาดเลือด เข้าได้กับภาวะสมองเสื่อมจากอัลไซเมอร์ ผลการตรวจเลือดคัดกรองซิฟิลิส TPHA ผลเป็นบวก
- แพทย์อธิบายว่า เมื่อคนไข้มีอาการพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไป ปรกติต้องตรวจหาสาเหตุก่อน เช่น สาเหตุการเจ็บป่วยทางร่างกาย (เช่น เนื้องอก เส้นเลือดสมองตีบ ติดเชื้อ) ช่วงแรกแพทย์คิดว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับภาวะ delirium ซึ่งอาจสัมพันธ์กับการนอนผิดปรกติ เพราะหลังๆหลวงปู่มีอาการนอนไม่ค่อยหลับ แพทย์จึงคิดว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับภาวะนี้ ก็ให้ยารักษา แต่เมื่ออาการหลวงปู่แย่ลง จึงต้องตรวจหาสาเหตุเพิ่มเติม

-หลวงปู่ในระยะหลังคือมีปัญหาเรื่องความทรงจำ ทำให้พฤติกรรมที่ท่านทำมักจะเป็นเรื่องที่เคยทำในสมัยก่อนและทำซ้ำๆ เช่น การหยิบของโยนให้คนที่มาหา แบบโยนพระเครื่องให้แบบที่เห็นในคลิปนั่นล่ะครับ
-ประเด็นเรื่องผลตรวจซิฟิลิส เมื่อคนไข้มีอาการสมองเสื่อม ต้องตรวจหาสาเหตุการเจ็บป่วยทางกาย การตรวจหาสาเหตุ ก็เป็นวิธีการนึง และการติดเชื้อซิฟิลิส ถ้าเคยติดเชื้อเมื่อนานมาแล้ว ก็ยังตรวจด้วยวิธีการนี้เป็นบวกได้
และสามารถติดได้จากหลายทาง นอกจากการติดจากเพศสัมพันธ์

ปรกติจะต้องเจาะน้ำไขสันหลังไปตรวจ แต่เคสหลวงปู่ไม่สามารถที่จะเจาะน้ำไขสันหลังไปตรวจได้ แพทย์จึงทำการรักษาไปเลย ส่วนอาการสมองเสื่อมของหลวงปู่จะเกิดจากซิฟิลิสหรือไม่ ไม่สามารถบอกได้ เพราะไม่มีผลการเจาะน้ำไขสันหลัง แต่มีผล MRI ที่บอกว่ามีการเสื่อมของสมองจริงๆ

ขอบคุณ โรงพยาบาลพริ้นซ์ อุบลราชธานี และ Drama-addict