ในยุคที่อะไรๆ ก็แพงไปหมด ค่าครองชีพ ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับปากท้อง ในชีวิตประจำวันของประชาชน ต่างพุ่งพรวด แซงหน้าค่าแรงขั้นต่ำล่วงหน้าไปแล้วหลายเท่า ผู้ปกครองที่มีบุตรหลานอยู่ในวัยเรียน ต้องรับภาระค่าใช้จ่าย เกี่ยวกับการเรียน มากขึ้นตามไปด้วย

ซึ่งเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2565 ทวิตเตอร์ RedSkull ได้หยิบยกประเด็นเรื่องการใส่ชุดลูกเสือ เนตรนารีของนักเรียนชั้นมัธยมต้น โดยระบุว่า "ซื้อชุดและอุปกรณ์ให้ลูก 2 คน ราคากว่า 2,600 บาท และรองเท้าอีก 2 คู่ ราคา 3,200 บาท แต่ใส่สัปดาห์ละวัน ไม่รวมกับวันหยุด เมื่อเจอแบบนี้แล้วนึกถึงคนหาเช้ากินค่ำแล้วเหนื่อยแทน"

จากนั้น เพจ Drama-addict ก็ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว่า "จริง ๆ วิชาลูกเสือควรให้เป็นวิชาเลือก ใครอยากเรียนก็เรียน ไม่อยากเรียนก็ได้ และควรลดราคาค่าชุด ไม่เข้าใจว่าทำไมชุดลูกเสือถึงมีราคาแพง ด้าน รศ. ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มองว่าควรจะใส่แค่ผ้าพันคอ หรือหมวกกับชุดนักเรียนเดิมก็พอแล้ว จะเปลืองเงินคอสเพลย์กันทำไมทั้งชุด"

ขณะเดียวกัน ก็มีผู้ใช้เฟซบุ๊กหลายราย เข้ามาแสดงความคิดเห็นถึงประเด็นชุดลูกเสือ และชุดอื่นๆว่า ในฐานะที่หลาย ๆ คนมีลูกที่ต้องซื้อชุดลูกเสือนั้น นับว่าเป็นชุดที่มีราคาแพง ขนาดบางบ้านไม่ได้ลำบากมากมายพอจะมีเงินซัพพอร์ตก็ยังมองว่าชุดนี้แพงอยู่ดี

นอกจากจะแพงในแง่ของตัวชุดและอุปกรณ์แล้วยังรู้สึกว่าใช้ไม่คุ้มค่าเพราะร้อน แถมเรียนวันละ 1 คาบ แต่กลับต้องลงทุนกับค่าชุด ค่าอุปกรณ์ เครื่องหมายต่าง ๆ อีกหลักพัน ซึ่งวิชานี้เป็นทักษะการดำรงชีวิต น่าจะให้เด็กเลือกเรียนเพิ่มเติมตามความสนใจจะดีกว่า หรือเป็นวิชาสอนเพิ่มเติมที่ไม่ต้องเสียเงินซื้อเสื้อผ้าเพิ่ม น่าจะใส่กับชุดอื่นแล้วใส่แค่ผ้าพันคอเหมือนตอนเข้าค่ายก็น่าจะเพียงพอแล้ว



ขอบคุณ Drama-addict และ Red Skull