กลายเป็นประเด็นที่กำลังถกเถียงกันบนโลกออนไลน์ในขณะนี้ เนื่องจากมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้พาเพื่อนชาวจีนและไทยรวม 6 คน ไปรับประทานอาหารทะเลที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งริมชายหาดแม่รำพึง ตำบลตะพง อำเภอเมือง จังหวัดระยอง และได้สั่งอาหารทะเลมาหลายรายการ ในจำนวนนี้มีหอยหวานรวมอยู่ด้วยอาหารทั้งหมดมี 14 รายการ

เมื่อรับประทานอาหารเสร็จแล้วจึงเรียกพนักงานร้านมาเก็บเงินค่าอาหาร ซึ่งทางชาวจีนเป็นผู้ชำระเงิน เมื่อตรวจดูรายการอาหารพบว่าราคาอาหารทั้งหมด 8,484 บาท โดยเฉพาะหอยหวาน 1 จาน ราคา 1,530 บาท แพงกว่ากุ้งมังกร ซึ่งมีราคา 1,500 บาทเท่านั้น ส่วนราคาอาหารอย่างอื่นปกติ

ซึ่งเจ้าตัวได้โพสต์ระบุ "เสร็จเรียบร้อย บิลมา 8,484 บาท ปกติกินพัทยา ไม่เกิน 6,000 อันนี้ร้านที่เคยกินนะคะ หรือถ้ากินเกิน 6,000 -15,000 อาหารก็จะเต็มโต๊ะกว่านี้ คนกินก็มากกว่านี้ คนจีนสีหน้าเปลี่ยน เราไปด้วยยังตกใจราคา ถามกลับเค้า เค้าบอก "ไม่เป็นไร" เราเลยยังไม่ได้พูดอะไร แต่ก็อึ้งกับราคา

ประเด็นคือ 1.อาหาร กับ ราคา สมเหตุสมผลหรือไม่ ? มีมาตรฐานในการกำหนด ราคาไหม? 2.เนื่องจากไม่ได้มีการแจ้งราคาก่อนเลย ถ้าคนทั่วไป ตาสี ตาสา จะมีเงินจ่ายไหม? (คือแบบนี้ถ้าจนก็แตะไม่ถึงอาหารทะเลได้เลย ) 3.เนื่องจากการท่องเที่ยวเริ่มเปิด และเราก็คาดหวังว่าเราพาคนจีนมาท่องเที่ยวอุดหนุนอาหารทะเลใน จ.ระยอง อยากให้เค้าประทับใจ แต่สุดท้าย หลายอย่างดูไม่เหตุสมผล สมราคา คนจีนผิดหวัง เค้าไม่อยากมากินที่นี่อีก ควรมีหน่วยงานต่างๆ มาดูแล กำหนดมาตรฐานและราคา หวังว่าจะมีการปรับปรุง"

ล่าสุดวานนี้ ( 9 มิ.ย. 65 ) นายทวีป แสงกระจ่าง นายก อบต.ตะพง พร้อมเจ้าหน้าที่เทศกิจ และสาธารณสุข เข้าตรวจสอบร้านขายอาหารทะเลชายหาดแม่รำพึง อำเภอเมือง ระยอง ที่ถูกกล่าวหาว่า ฉวยโอกาสกับนักทอ่งเที่ยวต่างชาติ ขายหอยหวานจานละ 1,530 บาท แพงกว่ากุ้งมังกร พร้อมโชว์บิลค่าอาหาร ที่มีรายการ กุ้งมังกร ราคา 1,500บาท หอยหวานราคา 1,530 บาท

นายทวีป แสงกระจ่าง กล่าวว่า หลังจากมีสื่อออกข่าวเรื่อง หอยหวาน ราคาแพง ทำให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าชายหาดต่างพากันหวั่นวิตกเกรงว่าจะกระทบต่อการค้าขาย เพราะที่ผ่านมาทุกร้านกำลังจะฟื้นตัวจากผลกระทบโควิด-19 และน้ำมันรั่ว เมื่อมาเจอกับข่าวหอยแพง ซ้ำเติมทำให้นักท่องเที่ยวไม่กล้ามาเที่ยว ซึ่งความจริงแล้วเกิดจากความไม่เข้าใจของผู้บริโภค หลังจากการได้พูดคุย ทำให้ทราบว่า หอยที่ลูกค้าสั่งเป็นหอยหวานซึ่งมีราคาสูงเนื่องจากเป็นหอยชนิดที่หายากราคาส่งเริ่มที่ กก.ละ 750 -850ขึ้นไป ทางร้านเมื่อรับมาแพง ก็ต้องขาย กก.ละ 900 บาทเป็นราคาที่เหมาะสม หากนักท่องเที่ยวหรือผู้บริโภคไม่เข้าใจ หรือคิดว่าถูกเอารัดเอาเปรียบให้แจ้งได้ทันที

ทางด้าน นางสาวธนารีย์ กระจ่างแจ้ง อายุ 28 ปี เจ้าของร้าน อธิบายว่า หอยหวานที่ลูกค้าสั่งในวันนั้น เป็นหอยหวานแท้ๆเป็นๆ(ไม่ตาย) ไม่ใช่หอยหวานหมาก(รูปร่างเหมือนหอยหวานแต่ตัวเล็กกว่าส่วนใหญ่จะตายมาแล้วเนื้อจะเหนียวรสชาติไม่หวาน)ซึ่งมีขายอยู่ทั่วไป วันนั้นทราบว่าลูกค้าเลือกหยิบหอยหวานเป็นๆจากบ่อ ทางร้านจึงทำให้ ขอยืนยันว่า ทางร้านไม่เคยคิดเอาเปรียบลูกค้าไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือชาวต่างชาติก็คิดราคาเดียวกันไม่มีชาร์ท ซึ่งเข้าใจว่าลูกค้ามีสิทธิสงสัยในราคาและคุณภาพได้ แต่หากมีความสงสัย ก็น่าจะสอบถามกับทางร้าน เพื่อรับคำอธิบายได้ทันที

ด้านนายเอกชัย สมงาม อายุ 57 ปี ชาวประมงหาดแม่รำพึง บอกว่า ตนเองมีอาชีพหาปูปลา และรับส่งอาหารทะเลให้กับร้านค้าต่างๆ ได้ดูข่าวแล้ว ทราบว่า หอยที่ลูกค้าสั่งที่เห็น ในจาน เป็นหอยหวานแท้ ๆซึ่งมีราคาสูง เพราะเป็นหอยชนิดที่หายาก ส่วนหอยที่มีอยู่ในท้องตลาดมีลักษณะเหมือนกับหอยหวาน ชื่อหอยหมากตัวจะเล็กกว่า และส่วนใหญ่จะตายมาแล้ว ถูกส่งมาจากทางใต้ นำมาครั้งละเป็นตัน ราคาจึงไม่แพงเท่ากับหอยหวานที่หาได้ครั้งละไม่มากนักและมีอยู่ในทะเลระยอง

ส่วนราคาของ หอยเจ้าปัญหา ทั้งสองชนิดพบว่า มีราคาต่างกันอย่างมาก คือหอยหวานแท้ตัวเป็นๆราคาอยู่ที่ กก.ละ 900บาท ส่วนหอยหมากที่มีรูปร่างเหมือนกันแต่มีขนาดเล็กกว่า ราคาอยู่ที่ กก.ละ 300บาท
