เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2565 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส ลงพื้นที่ถนนสุขุมวิท ติดตามการจัดระเบียบสายสื่อสารของ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT และของผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายอื่น ๆ

โดยมีนายสมจิตต์ ธีระชุติกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานขายและปฏิบัติการลูกค้า 2 บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) ให้การต้อนรับ หลังจากนั้นคณะฯ ลงพื้นที่ตรวจสภาพความเรียบร้อยสายสื่อสารในเขตกรุงเทพชั้นใน
บริเวณถนนสุขุมวิท 36 หน้าอาคารชุดและแหล่งสัญจรหนาแน่นเพื่อช่วยปรับทัศนียภาพให้สวยงามมีความปลอดภัยต่อชีวิตทรัพย์สินของประชาชน โดยปี 2565 ตั้งเป้าหมายการดำเนินการในโครงการจัดระเบียบสายสื่อสาร บริเวณกรุงเทพฯ ชั้นในตามถนนสายหลัก

โดยเฉพาะย่านธุรกิจที่มีประชาชนสัญจรผ่านเป็นจำนวนมากก่อน และขยายสู่พื้นที่รอบนอกต่อไป การจัดระเบียบสายสื่อสารโดย NT กฟน. ร่วมกับผู้ประกอบการกิจการโทรคมนาคม รวมทั้งหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง จัดทำแผนบูรณาการจัดระเบียบสายสื่อสารในเส้นทางหลักและเส้นทางวิกฤตทั้งในกรุงเทพฯ จำนวน 39 เส้นทาง รวมระยะทางทั้งหมด 104.83 กิโลเมตร
นายชัยวุฒิ กล่าวว่า รัฐบาลได้ประสานงานกับการไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ตในการทำงานร่วมกัน เส้นสุขุมวิทได้ลงใต้ดินแล้วทั้งหมด หากลงใต้ดินไม่ได้ให้จัดระเบียบให้ระเบียบ หากต้องการจัดสายไฟลงดินทั้งหมดต้องใช้เงิน 2 หมื่นล้านบาท และทางบริษัทสายโทรศัพท์ต้องจ่ายค่าเช่า

ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงทางฝั่งเอกชนอาจจะจ่ายไม่ไหว จึงได้มีการหารือกันเพื่อให้สามารถเอาสายสื่อสารลงดินได้ และคิดค่าใช้จ่ายในราคาถูก ค่าใช้จ่ายเหล่านี้รัฐบาลและกสทช.จะสนับสนุน และขอความร่วมมือกทม.ในการทำงานร่วมกัน เป็นจุดเริ่มต้นที่รัฐบาลได้ทำมาแล้วและจะทำอย่างต่อเนื่อง โดยทางฝั่งของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม.คนใหม่ ก็ต้องการผลักดันในเรื่องนี้
การจัดระเบียบสายไฟในวันนี้ เป็นการตอบโจทย์ปัญหาที่เกิดไฟไหม้สำเพ็ง ที่มาทำในวันนี้เพื่อให้ประชาชนทราบว่าเรากำลังดำเนินการอยู่ และจะทำตามแผนงานที่ได้วางไว้ ในบางจุดต้องขออภัยที่ยังไปไม่ถึง อันเนื่องมาจากปัญหาจำนวนคนและงบประมาณ

ทั้งนี้ ได้ตั้งเป้าหมายการจัดระเบียบสายไฟ เฉพาะภายในซอยจะทำให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ โดยได้รับความร่วมมือจากเอกชนเป็นอย่างดี ประชาชนทั่วไปหากพบเห็นปัญหาสายไฟสามารถแจ้งข้อมูลได้ทางเพจ รมว.ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ และเพจกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม



ขอบคุณ คมชัดลึก และ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม