เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2565 กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศ พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน-2 กรกฎาคม 2565) ฉบับที่ 2 ระบุว่า เมื่อเวลา 01.00 น.ของวันนี้ (29 มิ.ย. 65) หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ที่ปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ได้ทวีกำลังขึ้นเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว

โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ ละติจูด 15.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 116.0 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนืออย่างช้า ๆ คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 2-3 ก.ค. 65
ประกอบกับในช่วงวันที่ 30 มิ.ย.-2 ก.ค. 65 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ในขณะที่ร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก

ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วม ฉั บ พลันและน้ำป่าไหลหลาก และเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหาย ที่อาจเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง มีดังนี้
วันที่ 30 มิถุนายน 2565
ภาคเหนือ : จังหวัดเชียงราย พะเยา และน่าน
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร
ภาคตะวันออก : จังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด
ภาคใต้: จังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต

วันที่ 1 กรกฎาคม 2565
ภาคเหนือ : จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ ลำปาง อุตรดิตถ์ ตาก พิษณุโลกและเพชรบูรณ์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี หนองบัวลำภู สกลนคร นครพนม ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
ภาคกลาง : จังหวัดกาญจนบุรี และราชบุรี
ภาคตะวันออก : จังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
ภาคใต้ : จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่

วันที่ 2 กรกฎาคม 2565
ภาคเหนือ : จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี หนองบัวลำภู สกลนคร นครพนม ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
ภาคกลาง : จังหวัดอุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี
ภาคตะวันออก : จังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
ภาคใต้ : จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่

ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน จะมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
ขอบคุณ กรมอุตุนิยมวิทยา