ยังคงเป็นปัญหาอย่างต่อเนื่อง สำหรับการปรับราคาขึ้นของสินค้า ไม่ว่าจะเป็นอุปโภคหรือบริโภค ทำให้ส่งผลกระทบแก่หลายธุรกิจ รวมถึงประชาชน ที่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายที่พุ่งสูงขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว แต่รายรับยังคงเท่าเดิม ก่อให้เกิดปัญหาหนี้สินตามมา

ล่าสุด(30 มิ.ย. 65) นายธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล ยอมรับว่า ต้นทุนวัตถุดิบที่นำมาผลิตสินค้าอุปโภค-บริโภคในขณะนี้ หลายรายการสินค้าเข้าขั้นวิกฤต และขาดทุนอย่างมาก

โดยเฉพาะกลุ่มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เช่น มาม่า และอาจจะแบกรับภาวะต้นทุนสูงขึ้นไม่ไหว แม้ว่าทางกลุ่มพยายามตรึงสินค้ากลุ่มนี้ให้นานที่สุดก็ตาม ดังนั้น การหารือกับทางกระทรวงพาณิชย์ที่พยายามขอตรึงสินค้ากลุ่มนี้ไปก่อน คาดว่าอีกไม่นานราคาสินค้าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่าจะปรับราคาขึ้นอย่างแน่นอน

ซึ่งอาจะปรับเพิ่มขึ้นเป็นซองละ 7 บาท โดยเชื่อว่าผู้บริโภคน่าจะรับราคาดังกล่าวได้ และคงไม่สร้างภาระแก่ผู้บริโภคมากจนเกินไป ส่วนสินค้าอื่น ๆ แม้ต้นทุนจะสูงขึ้น แต่ทางกลุ่มยังแบกรับต้นทุนต่อไปได้ เช่น กลุ่มผลิตภัทฑ์ซักล้าง แม้ต้นทุนบางตัวจะสูงขึ้นและบางตัวก็ไม่ได้สูง

ประกอบกับกลุ่มสินค้านี้เป็นกลุ่มทดแทน หรือมีการแข่งขันทางการตลาดอยู่มาก จึงยังไม่จำเป็นต้องปรับเพิ่มขึ้นขณะนี้ แต่หากปัญหาสงครามยืดเยื้อไปนาน โอกาสต้นทุนก็จะแพงขึ้นไปอีกได้ ซึ่งทางกลุ่มจะพยายามตรึงสินค้าจำเป็นค่าการครองชีพให้นานที่สุด เพื่อช่วยเหลือประชาชนไปให้นาน แต่หากแบกรับไม่ไหว ก็อยากให้ทางส่วนราชการเข้าใจถึงความจำเป็นด้วย
