จากกรณีที่ตำรวจเข้าจับกุมตัว "นายธฤต ณ พัทลุง" หรือ "ไฮโซทะเล" ที่คอนโดมิเนียมย่านลุมพินี และจับกุม นายเพชร บุญวงษ์ นักธุรกิจด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์ คาบ้านพักหรูราคากว่า 10 ล้านบาท ย่านนาคนิวาส หลังตกเป็นผู้ต้องหาถูกนักธุรกิจชาวสิงคโปร์เข้าแจ้งความให้ตำรวจจับกุมตัว ในข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ และกักขังหน่วงเหนี่ยว

โดยเหตุการณ์เมื่อคืนวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่ไฮโซทะเล และนายเพชร ได้นัดให้ผู้เสียหายไปพบที่ร้านอาหารย่านรัชดาภิเษก เพื่อเจรจาเรื่องหนี้สินจำนวน 3 ล้านบาท ซึ่งผู้ต้องหาติดค้างผู้เสียหายอยู่ แต่หลังเจรจากันเป็นเวลานาน กล้องวงจรปิดของร้านก็จับภาพ ไฮโซทะเล กับการ์ด เดินล็อกตัวผู้เสียหายออกไปเมื่อเวลา 04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น โดยผู้ต้องหาได้ขับรถยนต์ SUV หรูของผู้เสียหาย พร้อมทรัพย์สินอีกจำนวนหนึ่ง มูลค่ากว่า 4 ล้านบาท หลบหนีไป ก่อนที่จะนำตัวผู้เสียหายไปปล่อยทิ้ง

ความคืบหน้าล่าสุด พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ได้นำตัวไฮโซทะเล และนายเพชร มาสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม โดยมีทนายความของนายธฤต ไปร่วมรับฟัง พร้อมกับขอยื่นประกันตัว โดยทนายความบอกว่า ไฮโซทะเลค่อนข้างเครียด และยืนยันว่าไม่มีส่วนร่วมก่อเหตุปล้นทรัพย์ แต่ยอมรับว่ารู้จักกับผู้เสียหาย และอยู่ร่วมในเหตุการณ์จริง พร้อมกับยืนยันว่ามีธุรกิจและรายได้มากพอที่จะไม่ต้องปล้นใคร และผู้เสียหายเองก็ติดหนี้ไฮโซทะเลเป็นเงินจำนวน 1 ล้านบาท มีหลักฐานการกู้ยืมถูกต้อง

ส่วนกรณีรถยนต์หรูของผู้เสียหายสูญหายไป ยืนยันว่า รถยนต์ไม่ได้อยู่กับไฮโซทะเล และมั่นใจว่ารถยนต์ก็ไม่ใช่ของผู้เสียหาย เชื่อว่าผู้เสียหายพูดความจริงไม่หมด และกำลังพิจารณาว่าจะแจ้งความกลับ เพราะทั้ง 3 คน มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงร่วมกันในการทำธุรกิจสีเทาบางอย่าง

อย่างไรก็ตามหลังข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ทางผู้จัดการออนไลน์ ได้นำเสนอข้อมูลของ นายธฤต ณ พัทลุง ว่าเป็นลูกชายของ ครูอ้อย ฐิตินาถ ณ พัทลุง หรือที่ใครๆ รู้จักกันในชื่อของ ครูอ้อย เข็มทิศ ที่เกิดกับสามีนักธุรกิจ ทั้งนี้เมื่อเข้าไปติดตามในเฟซบุ๊ก ของเจ้าตัว พบว่ามีการโพสต์ภาพไลฟ์สไตล์สุดหรู รวมถึงภาพที่แสดงถึงความรัก กับคุณแม่คนดังอยู่บ่อยครั้งด้วย



ขอบคุณ คมชัดลึก และ Lay Napattalung