วันที่ 29 ก.ค. 65 พ.ต.อ.รัชธพงศ์ เตี้ยสุด รองผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 พร้อมเจ้าหน้าที่ เข้าจับกุมนางพอนทิบ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี สัญชาติลาว อาชีพนักธุรกิจ หรือ เจ๊ทิบ ฉายา "พิมรี่พายเมืองลาว" และ ท้าวอานุสิด (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี สัญชาติลาว ภายในบ้านพักหลังหนึ่ง จ.ปทุมธานี

ภายหลังได้รับการประสานจากทางการลาว ว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 รายนี้ เป็นแฟนกัน ร่วมกันทำธุรกิจหลายอย่างที่ประเทศลาว ทั้งขายทอง เพชร และขายของออนไลน์ โด่งดังจากการทำกล่องสุ่มขาย เหมือนกับพิมรี่พาย จากนั้นก็เชิญชวนเล่นแชร์ อ้างว่า จะให้ค่าตอบแทนสูงถึง 30 – 50 % ต่อเดือน แต่ไม่เป็นตามที่กล่าวอ้าง

ต่อมามีรายงานว่า นำเงินกีบ 2 หมื่นล้านกีบ เงินไทย 400 ล้านบาท และเงินดอลลาร์สหรัฐ 4 ล้านเหรียญ หลบหนีเข้ามาในประเทศไทยเมื่อช่วงเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากถูกออกหมายจับคดีฉ้อโกงทรัพย์ และการคิดอัตราดอกเบี้ยสูง โดยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง สืบสวนจนทราบว่า นางพอนทิบ และ ท้าวอานุสิดอาศัยอยู่ภายโรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านคลองห้า จึงเข้าจับกุมในที่สุด

เบื้องต้นนางพอนทิบ ยืนยันไม่ได้โกงเงินใคร เป็นเรื่องเข้าใจผิด ส่วนที่หาว่าตนนำเงิน 400 ล้านบาท หลบหนีเข้ามาในประเทศไทย ก็ไม่มีจริง เพราะเงินจำนวนมากขนาดนี้ตนเองไม่สามารถแบกข้ามประเทศมาได้ หากจะโอนเงินข้ามประเทศในจำนวนที่มาก ก็เป็นไปได้ยาก ต้องใช้เอกสารมากมาย ยืนยันตนเองไม่ได้มีเงินมากขนาดนั้น มีเพียงจำนวนหนึ่งที่ใช้สำหรับหมุนเวียน

แต่ยอมรับว่า แชร์ที่ตั้งขึ้นได้ล้มแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาถูกขู่ทำร้าย มีคนเฝ้าอยู่หน้าบ้าน จนทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย จึงต้องหนีมาประเทศไทยและขอตั้งหลักก่อน ไม่ได้หนีคดีแต่อย่างใด ซึ่งขณะนี้พร้อมที่จะรับผิดชอบทุกอย่าง ตอนนี้พร้อมจะชี้แจงและรับผิดชอบทุกอย่างแล้ว

ด้านท้าวอานุสิด ชี้แจง เงินหวยที่ทุกคนยังไม่ได้รับนั้น ความจริงแฟนสาวได้โอนเงินให้แอดมินของเพจเพื่อให้เขาเอาไปจ่ายให้กับลูกค้า แต่ถูกแอดมินหักหลัง ไม่ได้โอนให้ลูกค้า ทำให้ตอนนี้กำลังรวบรวมหลักฐานเอาผิดกับทั้ง 2 คนอยู่ ยืนยันไม่ได้โกงเงินใคร และไม่ได้มีเงิน 400 ล้านบาทเช่นกัน หากมีจริงก็คงจะหนีไปยังประเทศกัมพูชาแล้ว ซึ่งตอนนี้มีเงินติดตัวกันอยู่เพียงแค่ 5-6 หมื่นบาทเท่านั้น
เบื้องต้นตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 3เตรียมผลักดันส่งกลับไปยังประเทศลาว หลังจากที่ทางการลาว ได้มีคำสั่งให้ยกเลิกหนังสือเดินทางของผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ก่อนหน้านี้