พ.อ.นพ. ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ยังคงเดินห้าค้นหาความจริง เพื่อทวงความยุติธรรมให้กับ นักแสดงสาว แตงโม นิดา ที่จากไปแล้วกว่า 5 เดือน ท่ามกลางข้อสงสัยของประชาชนหลายจุด ที่ยังไม่มีความชัดเจน
แม้พรุ่งนี้ จะมีกระแสข่าวออกมาว่า จะยื่นสั่งฟ้องผู้ต้องหา 6 ราย แต่ประเด็นข้อสงสัยที่ค้างคาใจ ก็ยังผุดขึ้นมาเรื่อยๆ ซึ่งทาง พ.อ.นพ. ธวัชชัย ออกมาเผยข้อมูลใหม่ ที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดทำเอาหลายคนถึงกับอึ้ง กับการเปิด GPS อย่างละเอียดเป็นวินาทีของ เรือสปีดโบ๊ท ที่สาวแตงโมนั่งมากับคนบนเรือ
โดยคุณหมอชี้ให้เห็นว่า หลังจากที่ แตงโม ตกน้ำตามคำบอกเล่าของคนเรือในเวลาช่วง 4 ทุ่มของวันที่ 24 กุมภาพันธ์ จากนั้นในเวลา 02.00 น. ของวันที่ 25 กุมภาพันธ์ หรือประมาณ 4 ชั่วโมงหลังสาวแตงโมตกน้ำ เรือลำดังกล่าวได้แวะที่ๆหนึ่ง
เป็นโรงแรมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา จาก GPS ชี้ชัดว่า เรือลำดังกล่าวขับมาจากอู่เรือด้วยความเร็วสูง จากนั้นมาแวะจุดดังกล่าวเพียง 14 วินาที และได้บึ่งเรือออกทันทีด้วยความเร็วสูงเช่นกัน หลังจากนั้นเรือได้กลับไปยังอู่อีกครั้ง ก่อนที่จะแล่นไปจอดที่ วัดค้างคาว
โดย พ.อ.นพ. ธวัชชัย ได้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่า "มาทำอะไรไกลถึงนี่ ตอนตีสอง ขนาดผูกกับโป๊ะตั้งแต่ตีหนึ่งแล้ว" นอกจากนี้ยังโพสต์คลิปจำลองการเดินเรือในวันดังกล่าวด้วย ว่าไปแวะที่ไหน อย่างไรบ้าง พร้อมข้อความว่า "เพื่อนทรยศและขุนนางกังฉิน ตามล่าหาความเท็จ มอบความบันเทิงให้แก่ประชาชน"
นอกจากนี้ คุณหมอ ได้ไปเจอกับผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้มา พร้อมโพสต์รูปและข้อความไว้ว่า "การวิเคราะห์ GPS ด้วยระบบ Machine Learning เพื่อนำมาใช้ในกรณีน้องแตงโม ตอนที่ 1 ความจำเป็นและเหตุผล เนื่องจาก GPS Garmin Dual 743 มีเทคโนโลยีล้ำสมัยและมีความละเอียดสูงมาก ปริมาณข้อมูลของ GPS speed boat Cobalt 25 SC ระหว่างเวลา 16:14 น. ของวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 จนถึง เวลา 4:03 น. ของวันที่ 25 กุุมภาพันธ์ 2565
มีข้อมูลทั้งหมด 6,351 ชุด ชุดละ 8 พารามิเตอร์ เกินกว่าสมองและสายตาของมนุษย์ที่จะรองรับ จึงจำเป็นต้องอาศัยโปรแกรมที่ฉลาดพอในการวิเคราะห์ ด้วยเหตุผลดังกล่าว คุณ เอกราช นามโภคิน Ekkarach Nampokin จึงได้สร้างโปรแกรมดังกล่าวขึ้นมา ฝากแชร์เรื่องราวดีๆ ของคนไทยด้วยครับ"
ต่อมาได้โพสต์อีกว่า "การวิเคราะห์ GPS ด้วยระบบ Machine Learning เพื่อนำมาใช้ในกรณีน้องแตงโม ตอนที่ 2 แนะนำโปรแกรม โดยผู้สร้าง อาจารย์เอกราช นามโภคิน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับคดี แต่ยินดีให้คำปรึกษาและความรู้ เพื่อนำไปวิเคราะห์และต่อยอดได้ เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่หลายภาคส่วน
ผม พ.อ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ ข้าราชการบำนาญ ซึ่งเคยมีประสบการณ์ด้านงานวิจัยและนวัตกรรม รับรางวัล ระดับชาติและนานาชาติ อยู่บ้าง ได้เล็งเห็นความสำคัญของโปรแกรมนี้ และ ศักยภาพของ อาจารย์เอกราช นามโภคิน จึงได้สมัครเป็นลูกศิษย์ เพื่อเรียนสุดยอดวิชานี้ แม้ว่าอาจารย์เอกราชจะอ่อนกว่าผมหลายปี
ถือเป็นโชคดีของผมอย่างยิ่ง ที่ข้าราชการระดับสูงของหน่วยงานราชการ มองไม่เห็นความสำคัญนี้ ทั้งยังให้สัมภาษณ์ว่าเป็นหลักฐานเลื่อนลอย ดังสุภาษิตที่ว่า "ไก่ได้พลอย" อัญมณีอันทรงคุณค่าทางปัญญานี้ จึงได้เหลือตกทอดมาถึงผม วันนี้ผมได้ไปเรียนกับอาจารย์เอกราช เป็นครั้งที่สอง (ไม่นับปรึกษาทางโทรศัพท์) และจะนำความรู้ที่ได้ ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด" ก็ต้องรอลุ้นต่อไปว่าในพรุ่งนี้จะมีความคืบหน้าเพิ่มเติมอย่างไรในคดีนี้
ขอบคุณ Tavatchai Kanchanarin
