นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิดให้บริการรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าสาย 2-38 หรือ สาย 8 เดิม ซึ่งมีบริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด เป็นผู้ให้บริการ ใน คอนเซ็บต์ “We Come To Change Fast 8 To Feel Good เรามาเพื่อเปลี่ยนความรู้สึกให้ดีขึ้น” ณ อู่บึงกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร

นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด เปิดเผยว่า เป็น “รถโดยสารพลังงานไฟฟ้า” ที่ผลิตโดยคนไทย ช่วยลดมลภาวะทางอากาศ และฝุ่นควันซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิด PM2.5 โดยในเฟสแรกมีทั้งสิ้น 153 คัน ทยอยนำมาใช้ล็อตแรก 40 คัน เริ่มวิ่งวันพรุ่งนี้ และจะนำออกมาวิ่งครบทั้งหมดภายในเดือนสิงหาคมนี้

พร้อมติดตั้งตู้ชาร์ตแบบฟาสต์ชาร์ต กำลังไฟ 310 กิโลวัตต์ชั่วโมง ชาร์ตหนึ่งครั้ง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 40 นาที วิ่งได้ 4 รอบ 280 กม.ต่อวัน ซึ่งมีกระจายตามอู่ต่างๆ ทั้ง 8 อู่ อู่ละ 20 หัวชาร์ต ครอบคลุม 71 เส้นทางที่บริษัทฯได้รับสัมปทาน มีแผนเปิดให้บริการ ภายในปี 2565 นี้

ทั้งนี้ รถทุกคันได้ติดตั้งเครื่องเก็บค่าโดยสารแบบ E-Ticket ซึ่งจะเริ่มใช้ 100% ได้เดือนหน้า (กันยายน) ควบคู่กับการใช้เงินสด โดยเป็นการเติมเงินไม่จำกัดขั้นต่ำ ผ่านระบบที่บริษัทพัฒนาขึ้นมาเอง เพื่อเตรียมพร้อมเชื่อมต่อการเดินทาง แบบระบบเครือข่าย “รถ-เรือ-ราง” ครบวงจร ควบคู่ไปกับการฝึกอบรมพนักงานขับรถ ซึ่งเรียกว่ากับตันเมล์ และพนักงานต้อนรับบนรถโดยสาร ที่เรียกว่าบัสโฮสเตส ให้มีความรู้ ความชำนาญในเส้นทาง และมีจิตวิญญาณของการให้บริการ คำนึงถึงความปลอดภัย ด้วยสโลแกน“เดินทางด้วยรอยยิ้ม ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ” โดยเก็บค่าโดยสารตามเดิม คือ 15 , 20 และ 25 บาท
นอกจากนี้ได้รับพนักงานจากสาย 8 เดิม มา ทำงานด้วยราว 15% ที่ผ่านการอบรม เพราะบางส่วนยังทำงานกับรถเมล์ร้อนที่ยังให้บริการอยู่

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยนับเป็นโอกาสสำคัญของการเปลี่ยนแปลงระบบรถโดยสารสาธารณะของประเทศไทย ที่เปลี่ยนจากการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง เป็นรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า ส่งเสริมประเทศด้วยนวัตกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ลดปัญหาฝุ่น pm 2.5 ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น

นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ตั้งเป้าในอนาคต จะขับเคลื่อนนโยบายนำรถเมล์ไฟฟ้ามาวิ่งให้บริการประชาชนในกรุงเทพฯและปริมณฑลครบ 237 เส้นทาง ซึ่งสาย 8 เป็นสายแรกที่เริ่มนำร่องในแผนปฏิรูปเส้นทาง โดยจะมีการประเมินผล ปัญหาอุปสรรคการให้บริการในระยะเวลา 2 เดือน พร้อมตั้งเป้ารถอีวีวิ่งให้บริการครอบคลุม 5,000 คันในระยะเวลา 3 ปี

ในส่วนขสมก. มีแผนนำรถEVมาวิ่งให้บริการปีนี้ 400 คัน อยู่ระหว่างการจัดทำ TOR และรอองค์การต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) เข้ามาตรวจสอบกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อเกิดความโปร่งใส นอกจากนี้ผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐใช้บริการได้ตามสิทธิเช่นเดิม