เกิดเหตุปริศนา คาใจผู้ปกครอง น้องฟิล์ม นักเรียน ม.6 โรงเรียนดัง จังหวัดบุรีรัมย์ เสียชีวิตปริศนาในป่าหลังโรงเรียน โดยเพื่อน ที่เสียชีวิต เล่าถึงเหตุการณ์วันที่ 2 ส.ค.65 ก่อนจะพบว่า น้องฟิล์ม เสียชีวิต

น้องเอ น้องฟิล์ม และเพื่อนอีก 1 คน ไม่ได้เข้าคาบกิจกรรมสวดมนต์ พากันลงมาซื้ออาหาร และไปนั่งกินชั้นล่างของอาคารเรียน แล้วก็มีครูฝ่ายปกครองมาไล่ น้อง A กับเพื่อนๆ จึงวิ่งหนี ครูวิ่งตาม พวกเธอจึงวิ่งหนีกระจายกันไปด้านหลังโรงเรียน โดยไม่รู้ว่าใครวิ่งไปทางไหนบ้าง
หลบครูกันอยู่พักใหญ่ ก่อนจะกลับมา แต่ไม่เจอใคร เลยคิดว่า ฟิล์ม คงขึ้นรถรับส่งของโรงเรียนกลับไปแล้ว จนกระทั่งตอนค่ำ ถึงรู้ข่าวว่า พบศพ ฟิล์ม อยู่ในป่า

ด้านพ่อของน้องฟิล์ม ติดใจการเสียชีวิตของลูกสาวมาก พ่อบอกว่า คนที่โทรมาบอกว่าลูกสาวเสียชีวิต คือ โรงพยาบาล บอกว่า ลูกสาวสิ้นใจแล้ว ด้วยภาวะหัวใจล้มเหลว สาเหตุที่ลูกสาวหัวใจล้มเหลว เกิดจากอะไร ? ทำไม ครูไม่โทรมาแจ้งตั้งแต่เกิดเหตุ ? ใครเป็นคนไปพบลูกสาวคนแรก ? ใครเป็นคนพาลูกสาวไปส่งโรงพยาบาล ? ตอนนี้ ยังไม่มีครูคนไหนมาชี้แจงเหตุการณ์ให้พ่อฟังเลย มีเพียงโทรศัพท์มาแจ้งว่า จะรับผิดชอบ

ซึ่งวันที่ 3 สิงหาคม 2565 พนักงานสอบสวน สภ.สตึก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ได้เชิญครูฝ่ายปกครองโรงเรียน ที่น้องฟิล์มเรียนอยู่ เข้าให้ปากคำ จากนั้นพ่อ และ แม่ ของน้องฟิล์ม พร้อมญาติกว่า 20 คน เข้าไปทำพิธีเชิญดวงวิญญาณของน้องฟิล์ม บริเวณป่าข้างโรงเรียนตามประเพณี โดยมีครูปกครอง คนที่มาตาม น้องฟิล์ม และเพื่อนๆ เข้าร่วมกิจกรรมสวดมนต์ เป็นคนพาไปยังจุดพบน้องฟิล์มในป่า

ซึ่งครูเล่าว่า เห็นนักเรียนวิ่งหนีกระเจิงกันไป และเห็นว่ามีนักเรียนวิ่งเข้าไปในป่า เลยตามไป กระทั่งเห็น น้องฟิล์ม นอนหมดสติในท่าตะแครงอยู่ในป่า ห่างจากโรงเรียนประมาณ 300 เมตร ตอนที่เจอครั้งแรก ยังมีลมหายใจ จึงพยายามอุ้มน้องออกจากป่า แล้วรีบพาไปโรงพยาบาลทันที เพราะเห็นนักเรียนอาการไม่ดีแล้ว สาเหตุที่ครูไม่ได้แจ้งผู้ปกครอง ให้ทราบทันที เพราะไม่รู้ว่า นักเรียนชื่ออะไร เนื่องจาก วันศุกร์ นักเรียนใส่เสื้อยืดกิจกรรม ไม่มีชื่อระบุ จึงรีบพานักเรียนไปส่งโรงพยาบาลก่อน

ด้าน แม่ของน้องฟิล์ม บอกว่า ไม่คิดว่าลูกสาวมีโรคประจำตัว เพราะที่ผ่านมาลูกไม่เคยบอกถึงอาการเจ็บป่วยอะไรเลย อาจเป็นเพราะวิ่งระยะไกล เมื่อนักข่าวถามว่า อยากส่งศพน้องไปชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตไหม แม่ตอบว่า ยังไงเขาก็เสียแล้ว อยากเอาลูกไปทำพิธีทางบ้านมากกว่า ถึงผ่าไป น้องก็ไม่มีชีวิตกลับคืนมา อยากให้น้องไปแบบสบาย แต่แม่อยากฝากให้โรงเรียนทำระบบการป้องกันการออกจากโรงเรียนให้รัดกุมกว่านี้ มีรั้วรอบขอบชิดมากกว่านี้

ขอบคุณ อีจัน