บุกรวบหนุ่มลักลอบค้าปลาปิรันยากลางกรุงฯ เป็นอันตรายต่อมนุษย์และสัตว์ทางน้ำ
พบเป็นกลุ่มปลาปิรันย่าแดงสายพันธุ์ดุร้ายลำดับต้นๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย
ตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จับกุม นายอภิสิทธิ์ อายุ 21 ปีผู้ต้องหาลักลอบค้าปลาปิรันยากลางกรุงเทพฯ พร้อมของกลาง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน และประสานงานกับกรมประมง พร้อมสนธิกำลังเข้าตรวจค้นและสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้ พร้อมของกลางคือปลาปิรันยา จำนวน 6 ตัว
โดยปลากลุ่มนี้เป็นปลาปิรันยาแดง สังเกตง่ายๆ เกล็ดที่ท้องจะมีสีแดงอมชมพูแวววาว กรามล่างยื่นยาวออกมาเห็นได้ชัด ภายในปากมีฟันแหลมคม เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่าขายมาแล้วประมาณ 1 ปี
ซึ่งจากการสืบสวนเพิ่มเติมพบว่า นายอภิสิทธิ์ ใช้บ้านพักย่านสายไหม ลักลอบเลี้ยง ปลาปิรันยาเพื่อการค้า ใช้บ้านพักเป็นจุดส่งมอบ โดยใช้วิธีการติดต่อประกาศซื้อขายกันทางไลน์และเพจเฟซบุ๊ก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขออนุมัติหมายค้นต่อศาลอาญามีนบุรี เพื่อเข้าทำการตรวจค้น จนกระทั่งในวันที่ 19 กันยายน 2565 ผลการตรวจสอบ พบปลาปิรันยา ขนาด 6 – 7 ซม. จำนวน 6 ตัวอยู่ในตู้กระจกบรรจุน้ำ จึงได้ตรวจยึดทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปทส. ส่วนของกลางพนักงานสอบสวนนำส่งให้ กรมประมง เพื่อตรวจพิสูจน์และเก็บรักษาต่อไป
เบื้องต้น นายอภิสิทธิ์ให้การว่ารับซื้อปลาปิรันยาจากเพจเฟซบุ๊ก โดยตนเองเลี้ยงไว้เพื่อที่จะขายต่อผ่านช่องทางออนไลน์ให้กับบุคคลที่สนใจปลาที่มีลักษณะนิสัยดุร้าย โดยคิดราคาตามขนาด และความสวยงาม ราคาประมาณหลักพันถึงหลักหมื่นบาท ทำมาแล้วประมาณ 1 ปี
จนท.แจ้งข้อกล่าวหา กระทำความผิดตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 มาตรา 64 ข้อหา ครอบครองสัตว์น้ำ (ปลาปิรันยา) ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายมนุษย์หรือต่อสัตว์น้ำอื่นโดยผิดกฎหมาย ระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ประกอบกฎกระทรวงกำหนดสัตว์น้ำที่ห้ามมีไว้ในครอบครอง พ.ศ.2559