แพรี่ ไพลวัล์ โพสต์ปริศนา ถึงวัวสันหลังหว่ะ ด้าน พระชาตรี ขอโทษแล้ว หลังพาดพิง

จากกรณีที่ "พระชาตรี เหมพันธ์" เจ้าอาวาสวัดพุทธวิหาร วัดไทยแห่งเดียวใน นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว พาดพิงถึง แพรรี่ หรือ ไพรวัลย์ วรรณบุตร เมื่อ 21 ก.ย. 65 ว่า

“อีแพรรี่ ตอนมันบวชเหมือนจะเป็นนักวิชาการทางพระพุทธศาสนา คิดว่าจะเป็นกำลังสำคัญในการเผยแพร่พระพุทธศาสนา แต่ในที่สุดก็สึก ซึ่งอาตมาก็ไม่ได้ว่า แต่อาตมามองว่าพฤติกรรมของอีแพรรี่ เป็นการดิสเครดิตพระพุทธศาสนา ไม่ได้ทำให้พระพุทธศาสนาดีขึ้น ถ้าเราเคยอยู่ที่ไหน เราไม่ควรเหยียบย่ำสถาบัน ที่เราเคยได้ข้าว ได้น้ำ”

งานนี้กลายเป็นประเด็นเดือดขึ้นมาทันที ทำให้ แพรี่ ออกมาไลฟ์ตอบโต้ จนในที่สุด พระชาตรี ก็ได้ออกมาโพสต์ขอโทษ โดยระบุข้อความว่า "คนเราเมื่อผิดต้องกล้ารับผิด พี่หลวงต้องขอโทษน้องแพรี่ ที่ก้าวล่วง เห็นด้วยกับความเห็นและทัศนคติของน้องทุกประการ จงอโหสิกรรม"

แต่ก็ยังมีประเด็นที่ชาวเน็ต อยากรู้เพิ่มอีก เมื่อ แพรรี่ ได้โพสต์ข้อความปริศนา แต่ไม่ได้ระบุว่า สื่อถึงใคร หลายโพสต์ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น "อันนี้เขาพูดถึงพระที่ไหนหรอคะ ดิฉันอยากรู้มากๆ

1. หลอกลวงนักศึกษาว่าจะให้ทุน สุดท้ายไม่มีทุนให้ นศ.เสียเวลา เสียเงินและเสียโอกาสไปฟรี ๆ

2. มีสีกาอาศัยในสถานที่ที่ตัวเองเรียกว่าวัด

3. มีข่าวเรื่องเงินในการขอบริจาคต่าง ๆ ไม่ว่าจะอ้างว่าเพื่อขยายวัด เพื่อการรักษาตัว (ซื้อประกันสุขภาพ) เพื่อการทำศพโยมที่เสียชีวิต และมีประเด็นโกงเงินนักศึกษาที่พ่อแม่ฝากฝังให้ช่วยดูแล

4. มีประเด็นประพฤติตนไม่เหมาะสมสมัยเป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัยจนถูกพิจารณาให้ออกด้วยจำนนต่อหลักฐานที่นักศึกษารวบรวมได้

5. มีประเด็นเรื่องเงินบริจาคที่หน่วยงานรัฐไทยเคยเดินทางมาดูงานและเข้าสักการะตามคำเปรยของพระว่าจะใช้ในการขยายวัด แต่ทุกวันนี้ก็ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน

6. ประเด็นตำแหน่งศาสตราจารย์ที่ไม่รู้ที่มา หาในฐานข้อมูลของ.... ก็ไม่เจอว่ามีผลงานระดับศาสตราจารย์จริง ๆ"

และโพสต์ต่อมามีภาพชายคนหนึ่ง เปือยท่อนบน พร้อมข้อความว่า "พุทธศาสนาสอนว่า ยัง กัมมัง กริสสันติ กัลยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ คนทำกรรมเช่นไรไว้ ดีหรือเลวก็ตาม จะต้องเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น

อลัชชีบางคน ชอบทำตัวเป็นวัวสันหลังหว่ะ ทำผิดแล้วกลัวผู้อื่นจะโจทย์เอา ก็ตีโพยตีพาย ร้อนตนไปก่อนไข้ ไร้สมณสัญญา บ้างก็ปกปิดไว้ ห่มคลุมกายด้วยผ้ากาสาวพัตร์ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าตนเองเป็นตาลยอดด้วน

ในอดีตชาตินานมา พระโพธิสัตว์ แม้ถือเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน ยังต้องเทศนาสั่งสอนนักบวชจอมปลอมเหล่านี้ว่า ท่านดูเกลี้ยงเกลา (น่าเลื่อมใส) แต่ภายนอกอย่างเดียว ทว่าภายในจิตใจของท่านกลับโสมมรกชัฏ

ดิฉันเตือนครั้งที่ 1 นะคะ นี่เบาๆ แค่เริ่มต้น ดิฉันมีข้อมูลและภาพเด็ดกว่านี้อีก ภิกษุประเภทราคะกล้า ชอบโชว์หุ่นโชว์ของลับ ทักแชทพูดคุยเลี้ยงดูสีกา ปกปิดใครก็ปกปิดได้ค่ะ แต่ปกปิดตัวเองไม่ได้หรอกนะคะ

พระวินัยเขียนไว้ชัด ภิกษุจงใจละเมิดสิกขาบท ต่อให้จะมีใครทราบหรือไม่ทราบก็ตาม ความผิดย่อมสำเร็จทีเดียว

ดิฉันยืนยันว่า ดิฉันเทิดทูนและบูชาพระศาสนา แต่ดิฉันไม่บูชาและเทิดทูนเหลือบไรที่แสวงหาประโยชน์จากพระศาสนาค่ะ คนอาจผิดพลาดเลวทรามได้ แต่พระศาสนาต้องบริสุทธิ์หมดจด

จบ ยกที่ 1 ค่ะ"