เรียกได้ว่ากลายเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ดูท่าทีจะไม่จบไม่สิ้นลงง่ายๆแล้วแหละจ้า กรณี “แพรรี่ ไพรวัลย์” ออกมาแฉข้อมูลอ้างมีพระยักยอกเงินวัด 4 ล้านบาท สมัยเป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดพุทธปัญญา ทำให้หลายคนมองว่าอาจเป็น “พระชาตรี” ล่าสุดเจ้าคณะตำบลบางเขน ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง อยู่ระหว่างการต่อสู้คดี แถมงานนี้ในส่วนทางด้านทนายความ "ทนายธรรมราช" ที่ก่อนหน้านี้ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีแพรรี่ ก็ยังได้ออกมายืนยันว่าจะเดินหน้าสู้คดีต่อ
โดยก่อนหน้านี้ทางนายไพรวัลย์ วรรณบุตร หรือ แพรรี่ อดีตพระวัดสร้อยทอง ได้มีการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า พระพุทธเจ้าตรัสไว้ โคย่อมไปสู่สำนักของโค ตัวเองจึงขอเสริมว่า กระบือก็ย่อมไปสู่สำนักของกระบือ และ อลัชชีย่อมคบหาอลัชชี พวกอธรรมวาที ย่อมซ้องเสพด้วยอธรรมวาที และมีการเปิดข้อมูลว่า สมัยที่พระรูปนี้ อยู่วัดพุทธปัญญา ได้สั่งการให้ต่อยตีทำร้ายพระรูปอื่น พร้อมกล่าวหาว่า มีพฤติกรรมยักยอกเปลี่ยนถ่ายเงินในบัญชีสมัยเป็นรักษาการเจ้าอาวาส จนเงินหายไปจากบัญชี 4 ล้านกว่าบาท
โดยพระชาตรี ได้เป็นรักษาการเจ้าอาวาส จากการสนับสนุนของฆราวาสในวัดที่เป็นกลุ่มเดียวกัน ส่วนเรื่องที่ถูกแฉว่า เคยมีพฤติกรรมสั่งพระลูกวัดทำร้ายพระรูปอื่นก็เป็นเรื่องจริง ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงที่เจ้าอาวาสรูปเก่ากำลังอาพาธ และ พระชาตรีเป็น รักษาการเจ้าอาวาส โดยเป็นการสั่งทำร้ายพระที่ไม้อยู่ในอาณัติของตัวเอง สำหรับเรื่อง การยักยอกเงิน หลายล้านบาท พระครูโกศล ระบุว่า ก็เป็นเรื่องจริง เคยมีการตรวจสอบ และ เป็นเหตุให้ พระชาตรี ถูกปลดออกจากการเป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดพุทธปัญญา โดยคดีนี้ ปัจจุบัน ยังอยู่ระหว่าง การต่อสู้คดีกันในกระบวนการของศาล
ด้านเฟซบุ๊กของ นาย ธรรมราช สาระปัญญา ทนายความที่แจ้งความดำเนินคดีกับนายไพรวัลย์ ออกมาโพสต์ข้อกฏหมาย พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ม.44ตรี แสดงจุดยืนยังเดินหน้าดำเนินคดี
ทังนี้เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ แสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ ว่าทั้งการแจ้งความนายไพรวัลย์และการตอบโต้ทนายความด้วยกันเอง มองว่าเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม
สำหรับการดำเนินคดีกับนายไพรวัลย์โดยการเลือกใช้ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ นายษิทรา มองว่า ไม่น่าจะทำได้ และการที่ นายธรรมราช กล่าวโทษคนอื่นโดยที่เขาอาจจะไม่ได้ทำผิดตามกฎหมายจริง ๆ ถือว่ามีความสุ่มเสี่ยงที่จะถูกดำเนินคดีกลับ
ขอบคุณภาพ : ทนายธรรมราช ไพรวัลย์วรรณบุตร
