วันที่ 30 กันยายน 2565 โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ได้รับรายงานจากสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 11 นครศรีธรรมราช ตรวจพบผู้ป่วยโรคฝีดาษวานร จำนวน 2 คน ซึ่งเป็นผู้ป่วยยืนยันรายที่ 9 และรายที่ 10 ใน จังหวัดภูเก็ต ประวัติพบว่าทั้งสองมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน

ผู้ป่วยยืนยันรายที่ 9 เป็นเพศหญิง สัญชาติไทย อายุ 37 ปี อาชีพพนักงานบริการ เริ่มป่วยตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2565 มีไข้ เจ็บคอ ปวดเมื่อยตัว และในวันที่ 17 กันยายน 2565 ผู้ป่วยซื้อยามารับประทานเอง ต่อมาเริ่มมีผื่นที่บริเวณก้น มีผื่นตุ่มหลายประเภท ทั้งตุ่มน้ำใส ตุ่มหนอง ตุ่มนูนแดง ทั่วร่างกาย ไม่มีอาการคัน แต่เจ็บบริเวณที่เป็นตุ่ม จนถึงวันที่ 25 กันยายน 2565
และขณะที่มีอาการป่วยในวันที่ 17 กันยายน ให้ประวัติว่า ได้สัมผัสใกล้ชิดกับชายชาวเยอรมัน อายุ 54 ปี ซึ่งต่อมาเริ่มมีอาการผื่นและตุ่มหนองที่บริเวณหน้าอก ในวันที่ 27 กันยายน

สำหรับผู้ป่วยยืนยันรายที่ 9 ไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง จังหวัดภูเก็ต และแพทย์ซักประวัติผู้ป่วยได้ข้อมูลว่า ไม่ได้สัมผัสผู้ป่วยที่มีผื่นหรือตุ่มที่ผิวหนัง และไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศ ในช่วง 21 วัน ก่อนป่วย แต่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดชาวต่างชาติ แพทย์วินิจฉัยว่าสงสัยเป็นโรคฝีดาษลิง ส่งตัวอย่างตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจหาเชื้อ วันที่ 26 กันยายน 2565 ผลตรวจ PCR พบเชื้อ Monkeypox virus
สำหรับสถานการณ์ โรคฝีดาษลิงทั่วโลก (ข้อมูล ณ วันที่ 28 ก.ย. 65) พบผู้ติดเชื้อ "ฝีดาษลิง" ยืนยัน จำนวน 67,556 ราย เสียชีวิต 27 ราย โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่ยังอยู่ในแถบทวีปยุโรป ส่วนสถานการณ์ โรคฝีดาษลิง ในประเทศไทย (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ย. 65) พบผู้ป่วยยืนยันสะสม 10 ราย

ขอแนะนำประชาชนหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับคนที่ไม่รู้จัก หรือผู้ที่มี ไข้ ผื่น ตุ่มน้ำ ตุ่มหนองบริเวณร่างกาย หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารคัดหลั่งจากร่างกายผู้อื่น ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกัน สวมหน้ากากอนามัย ขณะอยู่ใกล้ชิดผู้อื่น ล้างมือบ่อยๆ รับประทานอาหารปรุงสุกสะอาดและไม่สัมผัสสัตว์ป่วย ทั้งนี้ การเฝ้าระวังผู้ป่วยสงสัย โรคฝีดาษลิง ในประเทศไทยยังคงดำเนินการอย่างเข้มข้นต่อเนื่องทั้งในสถานพยาบาล คลินิกนิรนาม คลินิกโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ คลินิกโรคผิวหนังและโรงพยาบาล ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ รวมทั้งการเฝ้าระวังเชิงรุกในสถานที่เสี่ยง เพื่อค้นหาผู้ป่วยเพิ่มเติม และเตรียมความพร้อมของห้องปฏิบัติการเพื่อให้การตรวจวินิจฉัยทำได้รวดเร็วขึ้น และโรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชนมีศักยภาพในการรักษาโรคนี้ได้

และหากท่านใดเคยมีกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ สัมผัสใกล้ชิด หรือสัมผัสแนบชิดกับผู้ที่มีอาการป่วยเข้าข่าย โรคฝีดาษลิง เช่น มีผื่น ตุ่มนูน ตุ่มน้ำใส ตุ่มหนอง ตุ่มตกสะเก็ดตามลำตัว ร่วมกับ มีไข้ เจ็บคอ ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ ต่อมน้ำเหลืองโต สามารถติดต่อสถานพยาบาลใกล้บ้านเพื่อรับการตรวจหาเชื้อและวินิจฉัยโรค สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน กรมควบคุมโรค โทร. 1422

ขอบคุณ กรมควบคุมโรค