จากกรณีโศกนาฏกรรมสลดไปทั้งโลก เหตุการณ์อดีตตำรวจคลั่ง ใช้ปืนและมีดบุกทำร้ายเด็กน้อยและครูในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบลอุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุกว่า 20 คน และยังไปก่อเหตุทำร้ายรายทางและปลิดชีพตัวเอง เมีย ลูกน้อย ตายรวมเกือบ 40 ชีวิต
ล่าสุด พอล ภัทรพล ศิลปาจารย์ อดีตพระเอกออกมาโพสต์คลิปวิดีโอผ่านทางช่องติ๊กต็อก-ไอจีส่วนตัว ออกความคิดเห็น ฉุดสติสังคม ถึงเวลาให้ประเทศไทยเล็งเห็นถึงความสำคัญของกฎหมายปืน ที่จะต้องเคร่งครัด ควบคุม บุคคลที่มีสิทธิ์ในการครอบครองปืน เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียกับผู้บริสุทธิ์
โดย พอล ภัทรพล เผยว่า ได้เวลาคิดใหม่เรื่องปืน ผมว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาพวกเราคงเห็นข่าวเหมือนกันว่ามีการเสียชีวิตจากปืนในประเทศไทยเยอะมาก ตั้งแต่ขับรถปาดหน้ากันแล้วยิงกัน ทะเลาะกันในบ้านแล้วฆ่ากัน ไปจนถึงการสังหารหมู่ (mass shooting) ในค่ายทหารก็มี บุคคลธรรมดาก็มี
ลองมาดูนะครับว่าที่ต่างประเทศเขาแก้กันยังไง ที่ออสเตรเลียเขาเคยเกิดปัญหาแบบนี้เหมือนกัน ประเทศเขาใหญ่มาก มีสัตว์เยอแยะมากมาย ฉะนั้นคนก็เลยมีปืนกันเยอะครับ ที่นั่นการที่ทุกคนมีปืนคือเป็นเรื่องปกติมากครับ และทุกคนคิดเหมือนกันหมดว่ากฎหมายเรื่องปืนไม่มีทางแก้ได้
จน 28 เม.ย. 1996 มีชายคนหนึ่งอายุ 28 ปี เขาเข้าไปในร้านกาแฟและฆ่าคน 20 คน ภายในเวลา 90 วินาที ใช้กระสุนเพียง 29 นัด แล้วก็ออกไปยืนต่อที่ถนน ในวันนั้นเขาฆ่าคนไป 35 คน และบาดเจ็บอีก 23 คน ในสมัยก่อนที่ออสเตรเลียมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเรื่อยๆ ครับ
จนถึงวันหนึ่งประชาชนออสเตรเลียบอกว่าพอกันที ออสเตรเลียมีการแก้กฎหมายครับ มีการซื้อปืนคืนจากประชาชน แล้วก็เอาปืนนั้นไปทำลายทิ้ง ทุกวันนี้ที่ออสเตรเลียถ้าคุณจะซื้อปืนนั้นยากมากครับ เขาจะทำบล็อกกราวน์เช็กว่าคุณเหมาะสมมั้ยที่จะครอบครองปืน ดูว่าสภาพจิตใจคุณนั้นพร้อมมั้ย และคุณต้องรอถึง 28 วัน
ถามว่าแก้กฎหมายแล้วเวิร์กมั้ย จากปี 1986-1996 มีการเสียชีวิตจากการสังหารหมู่เกิน 100 คน หลังจากนั้น 28 ปี คนเสียชีวิตจากการสังหารหมู่เหลือ 0 คน แน่นอนครับว่าคนดีมีปืนก็มีครับ แต่ต้องยอมรับว่าคนไม่คู่ควรที่จะมีปืนก็มีเช่นเดียวกัน
ผมเชื่อว่าเป็นใครก็ตาม เวลาเห็นข่าวแบบนี้ก็รู้สึกเศร้าใจ หดหู่ เสียใจ ผมอยากจะแสดงความเสียใจกับครอบครัวที่สูญเสีย แต่ผมว่าแค่เสียใจอย่างเดียวมันไม่พอ เราจะต้องสูญเสียเลือดเนื้อ ชีวิตไปอีกกี่คน อีกกี่ครั้ง
ได้เวลาแล้วหรือยังที่ประเทศไทยจะบอกว่าพอกันที เพราะจะบอกว่าเสียใจอีกกี่ครั้งก็ไม่สามารถเอาชีวิตของคนที่ตายกลับมาได้ แต่สิ่งที่เราทำได้คือเปลี่ยนแปลงและลงมือทำเสียที อย่าปล่อยให้คนที่จากไปได้ตายฟรี
ขอบคุณภาพ : paulpattarapon
