พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ วัดแสงสิริธรรม ตำบลท่าอิฐ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจ ประชาชนในชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำทะเลหนุนสูงและมีน้ำท่วมขังอยู่นานนับเดือนแล้ว และช่วงนี้น้ำขึ้นทั้งตอนเช้าและตอนเย็น

โดยทันทีที่เดินทางมาถึง นายกรัฐมนตรีและคณะ รับฟังบรรยายสรุปจากอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจังหวัดนนทบุรีถึงเส้นทางน้ำ และปัญหาภาพรวมในจังหวัดนนทบุรี
จากนั้น นายกรัฐมนตรี เดินลุยน้ำเข้าไปถึงบ้านที่มียังมีผู้สูงอายุ อาศัยอยู่ พร้อมพูดคุยถามสารทุกข์สุกดิบ ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในชุมชนอย่างเป็นกันเอง พร้อมเดินตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจประชาชน จากนั้นได้แวะซื้อก๋วยเตี๋ยวเนื้อเจ้าดังในชุมชน

ซึ่งได้มี คุณยาย รายหนึ่ง เปิดร้านขายของชำบอกกับนายกฯว่า ถึงน้ำท่วมก็ต้องอยู่แบบนี้ จนกว่าน้ำจะลด จากนั้นได้ขอให้นายกฯถอดแมสก์ออกเพื่อขอดูใบหน้าชัดๆ ก่อนจะกล่าวว่าดูหนุ่มและหล่อกว่าในทีวี ขณะที่นายกฯก็ชมกลับว่ายังสาวอยู่เลย คุณยายตอบกลับทันทีว่านี่ขนาด 76 แล้วนะ

นอกจากนี้ นายกฯได้หันไปเห็นสุนัขที่ประชาชนเลี้ยงไว้ จึงเข้าไปสอบถาม เจ้าของว่าสุนัขชื่ออะไร เจ้าของตอบกลับว่า “พองๆกับคุณนายเซ” และกล่าวว่า ตนเป็นคนชอบสุนัข สุนัขไม่กัด พร้อมถามกลับว่า “สุนัขกับแมว” มีนิสัยแตกต่างกันอย่างไร ซึ่งประชาชนได้ตอบกลับว่า “ต่างตรงคำว่าสุนัขกับแมว โดยแมวขี้อ้อน สุนัขซื่อสัตย์”

ขณะที่นายกฯ กล่าวว่าย้ำว่า สุนัขจะซื่อสัตย์และดูแลเจ้านายของมัน และสุนัขชอบให้เล่นคลอเคลียกับเขา แต่แมวไม่ค่อยชอบ แมวชอบไปอยู่ในโลกของเขา พอถึงเวลาจะมาหาเราเอง แต่สุนัขจะมาเล่นด้วยทั้งวัน นี่คือความแตกต่าง ต้องสังเกตธรรมชาติของมัน คนเรายังแตกต่างกัน จากนั้นชาวบ้านได้ขอเซลฟี่ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับนายกฯ

จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่าในแต่ละปีก็มีปัญหามากมาย ซึ่งในปีนี้มีพายุแล้วฝนตามฤดูกาลมากกว่าทุกปี ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำคือการปรับตัว ซึ่งรัฐบาลก็พยายามจัดสรรงบแก้ไขปัญหาในหลายโครงการ บางพื้นที่ต้องใช้งบถึง 500 ล้านบาท ก็ต้องทำไปเรื่อยๆ ขณะเดียวกันต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับน้ำ สำหรับประชาชนที่อยู่ริมน้ำ ในขณะที่โครงการต่างๆ ยังไม่แล้วเสร็จ หรือยังแก้ไม่ได้ ก็ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ให้ได้ ซึ่งไม่ควรตอบโต้กันไปมาเพราะไม่สร้างสรรค์ จึงต้องขอชื่นชมในพื้นที่ ที่มีการดูแลเป็นอย่างดีแสดงให้เห็นว่าทุกคนร่วมใจกันและที่สำคัญยังมีรอยยิ้มให้นายกฯ แสดงว่าประชาชนเข้าใจว่ารัฐบาลกำลังทำอะไร พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล อยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาย่อมได้รับผลกระทบ

เมื่อถามว่าจากการลงพื้นที่ประชาชนต้องการให้ช่วยเหลืออะไรเป็นเรื่องเร่งด่วนนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมาประชาชนมีประสบการณ์อยู่แล้ว รู้ว่าจะต้องทำอะไรรับมืออย่างไร ทั้งการเตรียมความพร้อมด้านบ้านเรือนชีวิตความเป็นอยู่ชีวิตความเป็นอยู่ ส่วนที่ต้องการให้นำไดโว่มาสูบน้ำออกนั้น จะต้องดูว่าไม่ให้กระทบกับพื้นที่อื่น

ขอบคุณ ไทยคู่ฟ้า