วันนี้ (17 ต.ค. 65) พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำ โดยมีเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ นำเสนอแผนงานด้านทรัพยากรน้ำและการคาดการณ์สถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคใต้ นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร นำเสนอสถานการณ์ปาล์มน้ำมันในประเทศ ณ ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการการบริหารจัดการปาล์มน้ำมัน พบปะประชาชนและเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน หลังจากนั้น ลงพื้นที่ติดตามโครงการระบบป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนเมืองสุราษฎร์ธานี และติดตามโครงการแก้มลิงสระบัว ต.ท่าสะท้อน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร มอบหมายให้ทุกหน่วยงานบูรณาการวางแผนและเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำตาม 13 มาตรการรับมือฤดูฝนอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันและลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น เนื่องจากพื้นที่ภาคใต้กำลังเข้าสู่ฤดูฝน โดยให้จังหวัด กรมชลประทาน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งสำรวจจุดที่เสี่ยงน้ำท่วม สิ่งกีดขวางทางน้ำ โดยรายงานต่อคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัดและคณะกรรมการลุ่มน้ำ เพื่อกำหนดมาตรการรองรับต่อไป

โดยให้จังหวัด กรมชลประทาน ปภ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งสำรวจจุดที่เสี่ยงน้ำท่วม สิ่งกีดขวางทางน้ำ และรายงานต่อคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัดและคณะกรรมการลุ่มน้ำ เพื่อกำหนดมาตรการรองรับต่อไป และมอบหมายให้กรมชลประทาน เร่งสำรวจและซ่อมแซมบำรุงรักษาระบบระบายน้ำ อาคารบังคับน้ำและสถานีสูบน้ำให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน และวางแผนเก็บกักน้ำไว้สำหรับฤดูแล้งหน้าด้วย ให้ สทนช. เร่งรัดขับเคลื่อนแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วม-น้ำแล้ง

เพื่อแก้ไขปัญหาด้านน้ำในระดับพื้นที่ ทั้งในภาวะปกติและภาวะวิกฤติ และให้ทุกหน่วยงาน ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำให้ประชาชนรับทราบเป็นการล่วงหน้าอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งให้ทุกภาคส่วน บูรณาการพัฒนาปาล์มน้ำมันของ จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อมุ่งสู่ Oil Palm City ส่งเสริมการผลิตปาล์มน้ำมันยั่งยืน และมีการซื้อขายปาล์มน้ำมันที่เป็นธรรมให้เกษตรกร
สำหรับการลงพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ในวันนี้ พล.อ.ประวิตร ระบุว่า เพื่อต้องการมาเยี่ยมชาวสวนปาล์ม และมารับฟังปัญหาด้วยตัวเองในฐานะประธานกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ

ที่ผ่านมารัฐบาลมีผลงานอย่างต่อเนื่อง มีนโยบายและมาตรการต่างๆ ให้หน่วยงานดำเนินการจนสำเร็จเป็นรูปธรรม เช่น การนำน้ำมันปาล์มดิบในสต๊อกส่วนเกิน ราวๆ 3.6 แสนตัน ไปผลิตไฟฟ้า การเพิ่มสัดส่วนผสมไบโอดีเซล ให้บี 10 เป็นน้ำมันดีเซลฐาน ในปี 2562 โดยใช้เงินกองทุนอุดหนุน แม้ว่าจากสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนส่งผลให้น้ำมันมีราคาแพง จึงทำให้ต้องลดสัดส่วนเป็น บี 5 ชั่วคราว

ทั้งนี้ ตั้งแต่ 10 ต.ค. จนถึงสิ้น ธ.ค. 2565 ได้เพิ่มเป็น บี 7 และขยายเวลาให้ใช้เงินกองทุนอุดหนุนต่อไปอีก 2 ปี รวมถึงผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบให้ได้ 2 ล้านตันในช่วง 4 ปีนี้ พร้อมให้ดำเนินการติดมิเตอร์วัดน้ำมันปาล์มดิบให้แล้วเสร็จโดยเร็ว จากสถิติข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เห็นว่า เดิมในปี 2562 ราคาปาล์มทะลายเฉลี่ย กิโลกรัมละ 3 บาทกว่า ปี 2564 เฉลี่ย กิโลกรัมละ 6 บาทกว่า และ 9 เดือนที่ผ่านมา ราคาเฉลี่ย กิโลกรัมละ 8.50 บาท ซึ่งคาดว่าทั้งปี 2565 ราคาปาล์มทะลายเฉลี่ยจะอยู่ราวๆ 7.50-8.00 บาท และเมื่อประมาณการตัวเลขทางเศรษฐกิจแล้วพบว่า ภาคใต้ที่มีการปลูกปาล์มจะมีเศรษฐกิจดีและเงินสะพัดอย่างต่อเนื่อง เมื่อปี 2562 มูลค่าทางเศรษฐกิจเพียง 5 หมื่นล้านบาท ปี 2564 ขยับขึ้นเป็นหลักแสนล้านบาท คาดว่าปีนี้เงินจะสะพัดถึง 1.5 แสนล้านบาท
ขอบคุณ ไทยคู่ฟ้า