เรียกได้ว่าช่วงนี้มีข่าวคนในวงการบันเทิงเลิกรากันไปหลายคู่เนื่องจากสาเหตุ เพียงเพราะ คู่รักไม่ยอมทำการบ้าน? รวมถึงคู่รักของหนุ่มต๊ะ บอยสเก๊าท์ และภรรยาคนสวย บุ๋ม มินตยา ก็เป็นอีกหนึ่งคู่รัก ที่เกือบจบชีวิตคู่ไปแล้ว หลังจากทั้งคู่มีโซ่ทองคล้องใจแล้วทาง บุ๋ม มินตยา ก็ไม่ยอมทำการบ้านให้สามีเลย ทำเอาทั้งคู่ทะเลาะกันอยู่บ่อยครั้ง ถึงขั้นเกือบแยกทางกันเพราะเรื่องนี้เลยทีเดียว
โดยล่าสุดงานนี้ทั้งคู่ก็ได้ออกมาเปิดใจแบบหมดเปลือกกันครั้งแรกผ่านรายการคุยแซ่บShow ทางช่องOne31 ที่มี เบนซ์ พรชิตา และบูม สุภาพร เป็นพิธีกร
ตอนนี้ลูกสาวกี่ขวบแล้ว?
ต๊ะ : “ตอนนี้ 1 ขวบ 10 เดือน”
บุ๋ม : “พัฒนาการค่อนข้างดี เรียนรู้ได้เร็ว เหมือนน้องโตกว่าอายุ เราคุยกันรู้เรื่อง”
ต๊ะ : “น่าจะเกี่ยวกับเรื่องที่เราปูมาตั้งแต่อยู่ในท้อง ตั้งแต่เป็นไข่เลยจะเล่นดนตรีให้ฟังตลอด คุณแม่ก็จะอ่านนิทานตั้งแต่อยู่ในท้อง เด็กตั้งแต่เกิดจนถึง 3 ปีเป็นช่วงสำคัญที่สุดของชีวิตเขา เวลาเขาใช้มือหยิบจับจะทำให้เครือข่ายในสมองกระจาย ถ้าเราห้ามเขาไม่ให้หยิบจับ จะเป็นการขวางกั้นพัฒนาการ”
ลูกเรียกอะไรได้ก่อน?
ต๊ะ : “เรียก ต๊ะ ตั้งแต่ประมาณ 9-10 เดือน พอได้ยินก็ดีใจ น่าจะเป็นเพราะว่าเขาได้ยินตั้งแต่เกิดแล้ว ปกติแล้วยังไม่เรียกพ่อ ผมตื่นเต้นมากเพิ่งจะมาเรียกพ่อวันนี้แหละ ปกติเรียกต๊ะกับปะป๊า”
นอกจากคุณแม่ที่ต้องให้นมแล้ว พี่ต๊ะมีภาระหน้าที่อันใหญ่หลวงเหมือนกันคืออะไร?
ต๊ะ : “ล้างตูด ล้างอึ อาบน้ำ เป็นหน้าที่ของคุณพ่อ เรื่องอุ้ม รู้สึกภูมิใจ อยากทำ ก่อนมีลูกเวลาไปสนามบินแล้วเจอพ่อที่เอาลูกไปเปลี่ยนแพมเพิร์สในห้องน้ำ เหม็นอ่ะ อึเด็กโคตรเหม็นเลย แต่พอมีลูกแล้วเป็นเรื่องเล็กมากเลย แต่อย่างเรื่องอาบน้ำคุยกับแม่เขาว่าจะอาบถึงแค่เขา 3 ขวบก็พอ ต่อไปก็ให้อาบกับแม่ละ เพราะตอนนี้เขาเริ่มรู้ เริ่มเห็นอะไรที่มันประหลาดๆ ในตัวเราแล้ว”
เวลามีใครวิ่งมาจะเล่นกับลูก เขาอุ้มลูกวิ่งหนีเลย?
บุ๋ม : “มีครั้งหนึ่งเขาโมโหจริงจังมากเลย ไปทานอาหาร พนักงานก็มารับออเดอร์เป็นสาวสอง แล้วก็จะมาจับน้องปิ๊ง แล้วพ่อก็แสดงท่าทางอาการออกเลย เราก็ต้องส่งสายตา พอเขาไปก็บอกพี่ต๊ะว่าใจเย็นๆ เขาก็เอ็นดูเด็กเขาไม่มีลูก เขาไม่รู้ว่าต้องระวังอะไรบ้าง เหมือนตอนที่เรายังไม่มีลูกแล้วเราจะไปเล่น แล้วพ่อเขาตาแข็งใส่ พอเจอกับตัวเองเข้าใจเลย”
นอกจากจะหวงลูกแล้ว พี่ต๊ะยังสปอยล์ลูกด้วย ลูกชอบดูสัตว์พาไปอาทิตย์ละ 3 วัน?
ต๊ะ : “คือก่อนจะมีลูกเราเป็นคนชอบเที่ยวอยู่แล้ว ภาพที่เราเห็นเวลาไปสวนสัตว์ พ่อแม่จะเอาลูกเล็กๆ ไป เราเคยคุยกับบุ๋มว่าจะไปรู้เรื่องอะไรตัวแค่นี้ แต่พอมีลูกปุ๊บพาไปซาฟารี ก่อนที่จะไปสวนสัตว์ผมจะมีการ์ดรูปสัตว์เล่นกับเขาก่อนนอนทุกวัน พอไปสวนสัตว์เห็นม้าปุ๊บร้องเสียงม้าเลย”
ดูเหมือนพ่อแม่จะไม่ดุเลย?
บุ๋ม : “เคยลองดูแล้วแต่เขาไม่กลัวบุ๋ม เขาคิดว่าบุ๋มเล่นด้วย”
ต๊ะ : “เลยเปลี่ยนไปให้เหตุผลซะมากกว่า”
มีการตกลงกันมั้ยว่าถ้าลูกถึงตรงนี้จะต้องมีคนที่รับบทโหด?
บุ๋ม : “ตั้งแต่ตอนท้องก็มีการคุยว่าใครจะเป็นคนตีลูก พี่ต๊ะก็บอกว่า “เดี๋ยวต๊ะจัดการเอง ต๊ะเป็นผู้ชายเดี๋ยวต๊ะตีเอง” แล้วเป็นยังไง”
ต๊ะ : “ตีไม่ลง คือมันย้อนกลับไปคิดถึงตัวเราด้วย ผมแอนตี้ รักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี มันเหมือนกับว่าเราเอาแต่ตัวเองเราไม่ได้เห็นเขา การตีวันนี้เขาอาจจะหยุดซนเพราะความกลัวความเจ็บ แต่ถ้าวันหนึ่งเขาโตกว่านี้ ถ้าเขาไม่กลัว เขาไม่เจ็บล่ะ มันจะอีกแบบหนึ่ง เราจะเอาเขาไม่อยู่เลย สิ่งที่พยายามทำคือคุยกับเขาและให้เหตุผลมากกว่า สิ่งที่เขาตอบรับมาค่อนข้างดี เวลาเราคุยเหตุผลกับเขา เขาจะมองตาเรา แล้วเขาประมวลผลคิดตามเรา”
มีอยู่เรื่องหนึ่งที่พี่บุ๋มชื่นชมในตัวพี่ต๊ะมาก คือในการให้เกียรติลูกสาว ถึงแม้จะวัยเพียงขวบสองขวบ?
บุ๋ม : “คือตอนที่เราท้อง พี่ต๊ะบอกว่าเขากลัวจิ๊มิ๊ลูก เขากลัวจิ๊มิ๊ของเด็ก เขาไม่กล้าดูหรอก เพื่อนผู้ชายทุกคนที่มีลูกเขาก็บอกว่าคอยดูเถอะพอออกมาจะฟัด แต่พอปิ๊งปิ๊งออกมา พี่ต๊ะก็ทำอย่างนั้นจริงๆ ให้เกียรติลูกสาวไม่มองโดยตรง แต่บุ๋มก็จะสอนเขาว่าถ้าบุ๋มเป็นอะไรไปก่อนแล้วมีแต่เขา ก็ต้องทำให้ลูกนะ ทำความสะอาดของผู้หญิงทำอย่างนี้นะ”
แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งเป็นเรื่องใหญ่สำหรับพี่ต๊ะ เป็นเรื่องที่ต้องทะเลาะกันจริงจัง?
บุ๋ม : “เป็นเรื่องตัดผมค่ะ ตัดผมครั้งแรกของน้องปิ๊ง คือน้องปิ๊งตั้งแต่เกิดมาไว้ผมทรงแรกเกิดมาตลอด เราก็หาข้อมูลว่าเด็กเล็กต้องตัดผมร้านทำผมของเด็ก เพราะจะมีคนช่วยเซฟด้วย เขาต้องเชี่ยวชาญพิเศษ คนนี้ก็ไม่รู้หงุดหงิดอะไร หวงผมลูก พอถึงร้านก็หงุดหงิด แต่พอตัดเสร็จก็บอกว่าน่ารักดี”
เพิ่งผ่านประสบการณ์ติดโควิดทั้งครอบครัว เห็นว่าตอนนั้นยากลำบากเหมือนกัน?
ต๊ะ : “ผมจะออกไปทำงานแต่ละทีต้องผ่านการพูดเยอะ แต่มันต้องไปทำงาน สุดท้ายคนที่เอามาคนที่ติดคือคนนี้ (ภรรยา)”
บุ๋ม : “คือจะทำแบรนด์เสื้อผ้าเด็ก ไปเลือกผ้าเอง ก็เลยไปติดเชื้อโควิดกลับมาบ้าน”
ต๊ะ : “โหดร้ายมาก เพราะว่าแม่ต้องแยกไปอยู่อีกห้องหนึ่ง ต๊ะต้องดูลูกอีกห้องหนึ่ง เป็นห้องกระจกขวาง แล้วลูกติดนมแม่ร้องเรียกหาแม่ตลอด แต่เอาแม่ออกมาให้นมไม่ได้ พ่อต้องอยู่แทนแม่”
บุ๋ม : “วันที่ไปตรวจที่โรงพยาบาลลุ้นว่าให้ปิ๊งติดด้วยเหอะ ปรากฏว่าติดกันหมด แต่พอเด็กติดจริงๆแล้วมันแย่มาก มันไม่ใช่เรื่องสนุกเลย”
ต๊ะ : “ไข้ขึ้น 39.8 ถ้าเป็นผู้ใหญ่อาจช็อกไปแล้ว แต่ปิ๊งไม่มีร้องไห้งอแงเลย ไม่มีกวนทำให้พ่อแม่แย่ไปใหญ่ ไม่มีเลย คืนที่ไข้ขึ้นสูงอยู่ดีๆ ลุกขึ้นยืนแล้วยิ้มให้แม่ จนแม่เข้าใจผิดว่าผีเข้าหรือเปล่า”
เห็นว่าตอนอยู่โรงพยาบาลก็มีเรื่องไม่เข้าใจกัน?
ต๊ะ : “เกือบเลิกกันเหมือนกัน เรื่องของเรื่องคือผมให้บุ๋มเขากินยาให้ตรงเวลา ถ้ากิน 6 โมงเย็น ต้องกินอีกที 6 โมงเช้า แล้วเขาเหมือนไม่สนใจในสิ่งที่เราพยายามจะบอกเขา แล้วมีเรื่องสะสมเลยรุนแรงกัน จนบุ๋มก็พูดว่าเลิกกันเถอะ บุ๋มไม่ไหวแล้ว ผมก็อยากเลิกแล้ว แต่พอเราหันหน้ามาคุยจะเลิกกัน หันหน้าไปเห็นลูก ผมเลยต้องยอม บอกเมียว่าแยกไม่ได้ เพราะไม่ต้องการให้ลูกได้รับผลกระทบจากการที่พ่อแม่ทะเลาะกัน ซึ่งถ้าเป็นปกติทั่วไป เคสนี้เคลียร์หลายวันแน่นอน แต่พอมีลูกวันรุ่งขึ้นทุกอย่างหายหมด ที่เขาบอกว่าลูกเป็นโซ่ทองคล้องใจพ่อแม่ อันนี้เรื่องจริงมากๆ”
บ้านนี้เห็นแบบนี้ขาเตียงสั่นนะ เขาไม่ยอมทำการบ้านกัน?
ต๊ะ : “บุ๋มเขาเลี้ยงลูกแล้วไม่ค่อยทำการบ้าน เลยตัดสินใจเดี๋ยวส่งข้อความเลยว่า ที่เขาออกไปมีเมียน้อยกันมันก็เพราะแบบนี้แหละ แต่ยังไม่ทันส่งครับ เราเห็นภาพเขา เขาก็ไม่ได้ไปไหนวันๆ เลี้ยงลูก อยู่กับเรา อยู่กับลูกทั้งวัน เพราะฉะนั้นถ้าเกิดเราจะต้องการอะไรไปมากกว่านี้ มันก็เห็นแก่ตัวเกินไปแล้ว มันไม่ใช่ว่าเขาไปเที่ยวแล้วละเลย แต่เขาเลี้ยงลูกทั้งวัน”
บุ๋ม : “ในมุมของความเป็นแม่ เราเลี้ยงลูกทั้งวัน เวลาตอนที่จะเป็นของเราคือตอนที่เขาหลับเราถึงจะได้เข้าห้องน้ำแบบเต็มที่ ไถมือถือดูชีวิตคนอื่นบ้าง คนนี้ก็รอคิวต่อ มีอยู่คืนหนึ่งเขาอาบน้ำรอเลย เราก็แบบปิ๊งกินนมแม่นานๆ เลยนะ พี่ต๊ะเขาเหนื่อยมากเขาก็หลับไป ลูกก็หลับ สักพักโผล่หัวขึ้นมาดูว่าลูกหลับหรือยัง(หัวเราะ)”
มีอะไรอยากจะบอกลูกสาวมั้ย?
ต๊ะ : “ขอบคุณลูกสาวมากที่ให้โอกาสผมได้เป็นพ่อคน ผมรู้ตัวเองว่าตั้งแต่มีลูกผมเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่างและผมพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้เขามีความสุข”
บุ๋ม : “อยากบอกว่าน้องปิ๊งปิ๊งเป็นเหมือนของขวัญ ของขวัญที่ล้ำค่าที่สุดในชีวิตแม่เลย แม่จะดูแลรักษาน้องปิ๊งเอาไว้ให้ดีที่สุด ให้อนาคตและจะอยู่เป็นเพื่อนของน้องปิ๊งตลอดไปค่ะ คุณแม่รักหนูนะคะ”
ขอบคุณภาพ : kuizapshow