เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งข่าวที่ทำเอาชาวโซเชียลอดไม่พูดถึงไม่ได้เพราะจากกระแสที่ตอนนี้ถือว่าเป็นไวรัลไปทั่วโลกที่ล่าสุดมรครูสาวชาวไทยได้ทำคอนเทนท์กินต้มค้างคาวซดน้ำ หมอแล็บแพนด้า เตือนไม่รู้หรอว่าเป็นแหล่งรังโรค หลังจากที่หลายๆ ประเทศเพิ่งจะกำราบไวรัสร้ายอย่างโรคติดเชื้อ โควิด - 19 ได้กระทั่งสถานการณ์เริ่มกลับมาเป็นปกติ ซึ่งก่อนหน้านี้หลายคนอาจจะทราบข้อมูลว่า โคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ COVID-19 นั้นระบาดเนื่องด้วยมีค้างคาวเป็นพาหะ ทำให้ช่วงหนึ่งการนิยมกินอาหารแปลกหรือสัตว์แปลกๆ หายไป
แต่ล่าสุดกลับกลายเป็นดราม่าร้อนฉ่าในโลกออนไลน์ เมื่อ ครูสาวรายหนึ่งได้จัดเปิบเมนูพิสดารกินค้างคาวโชว์เอฟซี ทำเอาทัวร์ลงไม่หยุด ขณะที่ หมอแล็บแพนด้า หรือ ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน นักเทคนิคการแพทย์ชื่อดัง ก็ได้พูดถึงเรื่องราวนี้อย่างเผ็ดร้อนทำแฟนคลับกระหน่ำกดไลค์รัวๆ
ครูสาวกินต้มค้างคาว โดย หมอแล็บ แพนด้า ระบุว่า "บางคนไม่ได้เรียนรู้อะไรจากเหตุการณ์โควิดระบาดทั่วโลกเลย ยังทำคอนเทนต์ที่มันเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของโรคอยู่ตลอด การไปเอาสัตว์ที่เป็นแหล่งของเชื้อโรคมากิน ต่อให้เรากินสุกก็เถอะ แต่ขั้นตอนการจับค้างคาวและการชำแหละจะทำให้มนุษย์ติดโรคและแพร่ไปสู่คนอื่นได้
เพราะเชื้อไวรัสจะมีการสะสมอยู่ทั้งในเลือด น้ำลาย และเครื่องในต่างๆ เวลาเราเอามือไปสัมผัสพวกมันแล้วเผลอจับหน้าจับตา สูดดม หรือโดนแผลต่างๆ มนุษย์ก็ติดโรคและแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วไปทั่วโลก
ค้างคาวเป็นแหล่งรังโรคและเป็นสัตว์ที่สะสมเชื้อโรคเยอะมาก มีรายงานการเจอไวรัสมากกว่า 60 ชนิดในค้างคาว ซึ่งบางชนิดก็ก่อโรคในคนได้ และยังแพร่ระบาดไม่หายถึงทุกวันนี้ เช่น ไวรัสโรคพิษสุนัขบ้า ไวรัสอีโบล่า ไวรัสซาร์ส ไวรัสเมอร์ส ไวรัสนิปาห์ที่ทำให้เกิดโรคสมองอักเสบ และไวรัสโคโรน่าที่ก่อโรคโควิดมีคนล้มตายจำนวนมาก เศรษฐกิจพังไปทั่วโลก
เลิกไปยุ่งกับมันเถอะครับ อย่าไปกินสัตว์พวกนี้เลย เรามีบทเรียนที่หนักหนามากแล้ว อย่าทำให้โรคแปลกๆ มันระบาดสู่มนุษย์อีกเลยครับ"
ขอบคุณภาพ : หมอแล็บแพนด้า