เรียกได้ว่ากว่าจะผ่านมรสุมดราม่าหนักมาไม่ง่ายเลยทีเดียวสำหรับ "หนึ่ง จักรวาล เสาธงยุติธรรม" นักดนตรี และโปรดิวเซอร์ชื่อดัง เจอดรามาหนักมาก หลังมีคลิปหยอกล้อเล่นกับลูกสาวอย่างหนักหน่วง จนเกิดกระแสวิพากษ์จารณ์อย่างแรงในสังคม เกิดกระแสแรงขนาด ขนาดที่มีแฮชแท็ก #หนึ่งจักรวาล พุ่งติดเทรนด์ทวิตเตอร์
ล่าสุด "หนึ่ง จักรวาล" ที่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในงานแถลงข่าว คอนเสิร์ตการกุศล KRU GONG and FRIENDS Charity Concert ที่จัดขึ้นในวันที่ 29 ม.ค. 2566 โดยนำรายได้ทั้งหมด ไม่หักค่าใช้จ่าย มอบให้กับโรงพยาบาลลพบุรี (ศูนย์มะเร็งลพบุรี)
ทราบข่าว ก่อนหน้านี้พาครอบครัวแวะไปดูสลัมสถานที่เกิด ชีวิตวันนี้เรามาไกล มองย้อนกลับไปความรู้สึก เป็นอย่างไงบ้าง ?
“ก็ภูมิใจมาก ไม่เคยลืม ที่จะพาลูกและภรรยาไปสลัม คืออยากจะให้เขาเห็นว่าลูกเกิดมาทุกวันนี้ ลูกมีครบทุกอย่างแล้ว แต่ตรงนี้เป็นที่ป๊าเกิดนะ ลูกเขาก็งงว่าตรงนี้มันมีแต่คลองนะป๊า เราก็บอกว่าใช่ แต่ตรงนี้มันเป็นบ้านป๊า เราอยู่ตรงนี้กันมาแล้วเราก็ย้ายมาอยู่แฟลตใกล้ๆ กัน เราต้องหาเงินเรียนเองนะลูก ตอนนี้ลูกเกิดมาได้เรียนโรงเรียนดีๆ พูดภาษาอังกฤษได้ แค่นี้ป๊าก็ดีใจแล้ว ตอนเนี่ยป๊าไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษลูกกลับมาก็ไม่สามารถคุยกับลูกได้ ก็เหมือนสอนเขาไปในตัวด้วยว่าชีวิตคนเรามันไม่แน่นอนนะลูก ถ้าเราทำอะไรให้มันสุดจริงๆ มันจะมีวันนี้ขึ้นมาได้“
หลังชีวิตเจอเรื่องดรามาถล่มแรงๆ มาอย่างหนักหน่วง ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง ?
"คือเราเข้าใจคน เราเข้าใจยุคสมัยที่มันเปลี่ยนไป ด้วยความเป็นพ่อแม่ลูกเราก็อยู่บ้านกัน เขารู้แหละว่าเรารัก ก็ถามว่าลูกถ้าไปโรงเรียนแล้วโดนล้อจะเป็นยังไง เขาก็บอกว่า อ๋อ หนูรู้ว่าป๊ากับแม่จ๋ารักหนู เขาก็ไม่มีโดนล้อนะ คือเราก็จะพยายามเข้าใจว่าโลกมีการเปลี่ยนไป เรารู้ว่าตัวเราทำอะไร ทุกคนมีสิทธิ์คิดเราห้ามความคิดใครไม่ได้ เขาจะคิดดีก็ได้คิดไม่ได้ดีก็ได้ เพราะต่อว่าให้เราทำดีแค่ไหน คนที่ไม่ชอบเราเขาก็ไม่ชอบอยู่ดี"
ในครอบครัวดูแลจิตใจกันและกันอย่างไรบ้าง
"ก็คุยกัน อันไหนคอมเมนต์ไม่ดีเราก็เลือกที่จะไม่เห็นจะดีกว่า ไม่งั้นเดี๋ยวสถาบันครอบครัวเรามันจะไม่แข็งแรง คือครอบครัวเราอยู่กันจนวันตาย เราจับมือกันนะลูกนะ มีการตั้งแผนกันนะ ป๊าจะไปก่อนหรือแม่จ๋าจะไปก่อนก็จะบอกลูกนะ ลูกต้องรักษาตัวดีๆ นะ ป๊าเตรียมทุกอย่างไว้ให้หนูแล้วนะ"
ลูกสาวคนสวย เข้าใจเรื่องนี้มากน้อยขนาดไหน ?
"คือเขาเข้าใจชีวิต เขาเกิดมาเขามีทุกอย่างแล้ว แต่เราเกิดมาของเล่นก็ไม่มี ที่เราพาเขาไปสลัม แล้วก็บอกเขาว่าของเล่นของป๊ามันลอยมาจากคลองนะลูก แล้วเวลาที่เราจะ เก็บต้องเอาตะกร้าช้อนขึ้นมา แล้วก็เอามาล้างแล้วค่อยเล่น ก็พยายามสอนว่าเราไม่มีอะไรเลย เรียนดนตรี ก็ไม่ได้เรียน แม้กระทั่งเปียโนที่จะเล่น ยังใช้วิธีคิดแล้วก็ซ้อมกับหมอนเอา คิดว่ามันคือเปียโน แม้ว่าเขาโตมาอีกแบบนึง เราก็คิดว่าเขาน่าจะปรับได้ เพราะเขาเกิดมาเขาก็เจอแต่ผู้ใหญ่หมดเลย แล้วอยู่ในสตูดิโอ เวลาไปทำงานก็พาลูกไปด้วย สอนเขาว่ากว่าป๊าจะได้เงินต้องออกมาทำงาน"
ในวัยนี้ เขารู้แล้วเหรอว่าเกิดดราม่าอะไรขึ้น?
“เขาจะรู้หรือเปล่าไม่รู้ เขาก็ไม่ได้ค่อยเล่าอะไรให้เราฟัง แต่ก็ไม่มี เพราะว่ากลับมาทุกวัน ก็ไม่มีอะไร ก็สนุกหรรษาเฮฮาทุกวัน”
ตัวเราเองล่ะเพราะว่าเราเป็นคนมีชื่อเสียงด้วยแล้วก็เป็นครูด้วย?
“คือเราก็จะพยามเข้าใจว่าโลกมีการเปลี่ยนไป เรารู้ว่าตัวเราอ่ะทำอะไร ทุกคนมีสิทธิ์คิด เราห้ามความคิดใครไม่ได้ เขาจะคิดดีก็ได้คิดไม่ดีก็ได้ เพราะว่าต่อให้เราทำดีแค่ไหน คนที่ไม่ชอบเราเขาก็ไม่ชอบเราอยู่ดีครับ”
ที่ทำให้เราคิดบวกได้แบบนี้ เป็นเพราะเราพาครอบครัวเข้าหาธรรมะ?
“พี่เป็นคนที่ว่างไม่ได้ ว่างเป็นต้องเข้าวัดเลย เพราะว่าชอบทำบุญ ตอนเนี่ยตั้งเป้าหมายแล้ว เป้าหมายล่าสุด ถ้าว่างวันเดียวแล้วอยากจะไปที่ไหนต่อให้บินเช้าเย็นกลับก็เอา ถ้าถามว่าไม่เหนื่อยเหรอ แต่จะบอกว่าวิธีคลายเครียดอย่างหนึ่งของเราก็คือไปทำบุญ อย่างช่วงดราม่าตอนนั้นก็เหมือนว่าเราค่อนข้างจะเงียบหายไป อย่างตามรายการต่างๆ ที่ครองเกือบจะทุกเกมโชว์ก็ไม่ค่อยได้เห็น”
กับกระแสข่าวลือแรงมากๆ "โดนปลด" ออกจากรายการ ?
"คือไม่หาย ไม่หาย เอาจริงๆ นะเป็นคนที่เล่นโซเชียลบ้าง ไม่เล่นบ้าง คือบางวันทำงานไม่มีเวลาลง อย่างวันนี้ทำบุญมาเยอะแยะ วันหนึ่งทำที 5 วัด 6 วัด เราก็ทยอยๆ ลง หรือบางที บางรูปก็ไม่ได้ลง เราใช้ชีวิตทุกอย่างปกติครับ ถ้าเป็นเรื่องของรายการต่าง ๆ น่าจะเป็นการโดนตัดลง เพราะว่ารายการมันหยุดไง แล้วก็บางรายการก็ยุบแล้วไปเพิ่มรายการใหม่ อาจจะอยู่ในช่วงของขั้นตอน แต่บางรายการไม่มีหน้าพี่ออก แต่ว่าพี่ก็ทำเพลงอยู่ แต่เราก็ไม่ได้ ไม่ลง"
แสดงว่าข่าวไม่ได้มีผลกระทบต่องานใดใดที่เราทำเลย?
“ใช่ พี่ก็ยังทำงานปกติ”
ขอบคุณภาพ : jakkawal_1