เรียกได้ว่าช่วงนี้ออกมาฟาดแรงอย่างต่อเนื่องแบบไม่พักกันเลยจ้า สำหรับ "แพรรี่" หรือ "ไพรวัลย์ วรรณบุตร" ที่ล่าสุดก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความร่ายยาวฝากถึงพระที่กระทำความผิดบาป
โดยมีข้อความระบุว่า "พระหลายรูปเดี๋ยวนี้ แค่หิริโอตตัปปะยังไม่มีเลย แล้วจะมีหน้ามาสอนฆราวาสญาติโยมยังไงคะ เป็นพระต้องมีลัชชีธรรมสิคะ คือมีความละอายในความผิดบาปแม้เล็กน้อย
นี่เป็นเหตุผลว่า ทำไมพระถึงต้องปลงอาบัติทุกครั้งก่อนทำสังฆกรรม เพราะพระจะเป็นพระอยู่ได้ (หรือไม่ได้) ก็ด้วยความบริสุทธิ์ของศีลสิกขาบทเท่านั้น
ถ้าไม่มีความละอายใจหรือความบริสุทธิ์ในไตรสิกขา เขาเรียกว่า เป็นพวกอลัชชี แล้วพระส่วนใหญ่เดี๋ยวนี้ก็พึงใจที่จะเป็นอลัชชีซะด้วย
ทำความผิดแล้วไม่ยอมรับเลยนะคะ ถ้าไม่จำนนด้วยหลักฐาน บางรูปถึงต่อให้ต้องปาราชิกแล้ว ก็ยังทำตัวเป็นตาลยอดด้วนที่ห่มผ้าเหลืองอยู่ อันนี้เลวร้ายมาก
พระหลายรูปเห็นแก่ตัว ไม่แก่พระศาสนา คือทำผิดแล้วก็ยังปกปิดโทษของตัวเองเอาไว้ เห็นแก่ลาภสักการะที่คนถวายด้วยความเคารพศรัทธา ทั้งๆ ที่ตนเองไม่ได้ประพฤติตนให้อยู่ในฐานะที่ควรแก่ลาภสักการะเหล่านั้น
ดิฉันอยากฝากไปถึงพระหลายๆ รูปนะคะว่า ถ้ารู้ว่า ตัวเองเป็นคนสกปรกแล้ว เป็นคนด่างคนพร้อยแล้ว ต้องออกมาค่ะ
พระพุทธเจ้าตรัสว่า คนที่ประมาทแล้วกลับตัวไม่ประมาทภายหลัง ย่อมสว่างเหมือนดั่งพระจันทร์ที่พ้นจากเมฆหมอกได้
ภิกษุที่พ่ายแพ้ในทางพระธรรมวินัย แม้สละผ้าเหลืองออกมาเป็นฆราวาส ก็สามารถเป็นกัลยาณปุถุชชนที่ดีได้นะคะ เป็นอุบาสกที่ค้ำชูพระศาสนาได้
การฝืนประพฤติพรหมจรรย์ทั้งๆ ที่ต้องมลทินแล้วต่างหาก การหลอกลวงคนอื่นเลี้ยงชีพ การแสร้งประพฤติตนให้คนศรัทธา เป็นความเลวร้ายค่ะ เป็นความเสื่อมลงในทางกุศลเรื่อยๆ ของคนที่ทำแบบนั้น
สุทธิ อสุทธิ ปัจจัตตัง ความสะอาดหรือสกปรก มีแต่คนเป็นเจ้าของตัวเท่านั้นที่ย่อมรู้อยู่แก่ใจของตัวดีค่ะ โกหกคนอื่นได้ แต่โกหกตัวเองไม่ได้นะคะ
คนโกหกแล้ว จะไม่ทำความชั่วอย่างอื่นต่อไปอีก ไม่มี พระพุทธเจ้าท่านเตือนไว้ เลิกโกหกหลอกลวงเถอะค่ะ จบ"
ขอบคุณ ไพรวัลย์ วรรณบุตร