ผู้สื่อข่าวสำนักข่าว จาม ประจำจังหวัดสตูล รายงานข่าวว่าครอบครัวชาวสตูล มีลูกสาวไปเรียนในประเทศอิหร่าน โดนสังคมรังเกียจ ใส่ร้ายว่าติดเชื้อโควิด-19 ลามยันพ่อแม่ พี่สาว วอนอย่ารังเกียจ กักตัวครบ 14 วันจะตรวจพิสูจน์

เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีนักศึกษากลับจากเมืองกุม ประเทศอิหร่าน ซึ่งเป็นประเทศกลุ่มเสี่ยงไวรัสโควิด-19 เช่นกัน ทำให้นักศึกษาที่เป็นคนในจังหวัดสตูลประมาณ 7 คน เดินทางกลับมาเมืองไทยและเดินทางถึงจังหวัดสตูลเมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา โดยทีมข่าวลงไปในพื้นที่หมู่ที่ 5 ตำบลนิคมพัฒนา อำเภอมะนัง จังหวัดสตูล โดยพบน้องยา (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี (นักศึกษาไทยไปเรียนประเทศอิหร่าน) เดินอยู่ในห้องเล็กๆที่ติดกับโรงจอดรถของที่บ้าน ได้เปิดเผยกับทีมข่าวผ่านเสียงตะโกนออกมาว่า ตนเองได้เดินทางไปศึกษาแค่ 2 เดือนเท่านั้น ซึ่งในเมืองกุม ประเทศอิหร่าน ก็พบโควิด 19 แพร่ระบาด ทางโรงเรียนจึงสั่งปิดทันที และให้นักศึกษาเดินทางกลับบ้านเมืองของตนเองทัน


ซึ่งการเดินทางกลับมานั้น ก็โดนตรวจตั้งแต่สนามบินที่ประเทศอิหร่านแล้ว พอมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ก็โดนกักตัวตรวจเช่นกัน สแกนก็ไม่พบอะไร โดยพ่อและแม่ก็ไปรับ ซึ่งทางครอบครัวนั้นก็ทำตามที่ทางสาธารณสุขแนะนำว่าเมื่อมาถึง ก็มุ่งตรงไปที่บ้านทันที โดยที่บ้านจะแบ่งออกมา มีห้องนอนในโรงรถ ทางครอบครัวใช้ห้องนั้นเป็นสถานที่กักตัวน้องยา ทางพ่อก็จะดูแลห่างๆเวลานำอาหารมาก็จะตั้งวางหน้าประตู โดยการกักตัวนั้น วันนี้เป็นวันที่ 2 แล้วที่กักตัวเอง ทำได้แค่เล่นโทรศัพท์มือถือดูข่าวสาร ไม่ได้ออกไปไหน ตอนนี้ต้องอดทนกักตัวเอง


ผู้สื่อข่าวได้พบกับเจ้าของบ้านซึ่งเป็นแม่ของน้องที่เดินทางกลับจากประเทศอิหร่าน คุณแม่เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังด้วยความน้อยใจสังคม ว่า ลูกสาวของตนเพิ่งกลับมาจากประเทศอิหร่าน ก็ได้ผ่านกระบวนการตรวจคัดกรองมาหลายขั้นตอน ทั้งทางประเทศอิหร่าน และเมื่อกลับมาเมืองไทย ก็ผ่านการสแกนเชื้อที่สนามบินอีก เมื่อเดินทางกลับมาถึงบ้านก็มีทางด้านสาธารณสุข พร้อมด้วยนายอำเภอมะนัง เข้ามาตรวจและเยี่ยมเยียนอีก

แต่หลังจากที่รู้ว่าลูกสาวกลับจากอิหร่าน ซึ่งเป็นประเทศที่มีการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ทำให้ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่กล้าที่จะเข้ามาซื้อของในร้านของตน ยืนยันว่าคนที่มาช่วยขายของคืออีกคน อีกทั้งเอาไปพูดต่อๆเหมือนว่าครอบครัวเราเป็นเป็นปิศาจร้าย วอนสังคมหยุดที่จะทำเหมือนว่าพวกเราเป็นครอบครัวที่น่ารังเกียจ แต่ก็ยังมีลูกค้าประจำที่เขาไม่สนใจ ก็ยังมาซื้อของที่ร้านเป็นประจำ ให้กำลังใจเป็นอย่างดี เพียงแต่ผู้เป็นแม่สงสารลูกสาวที่กลับมา พ่อ แม่ พี่สาวยังไม่ได้เข้าไปกอดเลยเพื่อปลอบขวัญ

ในส่วนของผู้เป็นพ่อเองฝากวอนชาวบ้านผ่านผู้สื่อข่าวมาว่า อยากให้ทุกคนเข้าใจและอย่าพูดอะไรที่มันเกินไปทั้งๆที่น้องก็มีหนังสือรับรองจากประเทศอิหร่านมาแล้วว่าน้องไม่ได้ติดเชื้อโควิด-19 อีกอย่างทุกวันนี้น้องก็ยอมกักตัวเองตามคำสั่งของทุกหน่วยงาน จึงอยากให้ทุกคนเข้าใจและช่วยให้กำลังใจน้องดีกว่ามาพูดจาไม่ดีใส่ให้สภาพจิตใจน้องแย่ลงอย่างนี้...

เรื่องและภาพโดย: เอนก ขันทสิกรรม ทีมข่าวภูมิภาค จาม ประจำจังหวัดสตูล