หมอจีนคนแรกที่เตือนเรื่องไวรัสโคโรนาในอู่ฮั่น สิ้นใจแล้ว

ข่าวที่ 1 : หมอจีนคนแรกที่เตือนเรื่องไวรัสโคโรนาในอู่ฮั่น สิ้นใจแล้ว

นพ.หลี่ เหวินเหลียง (Li Wenliang) หมอจีนคนแรกที่พยายามเตือนเรื่องการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019  ได้รับการยืนยันจากโรงพยาบาลกลางอู่ฮั่นว่าเสียชีวิตแล้วในเวลา 02.58 น ของเช้าวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากในช่วงค่ำของคืนวันพฤหัสฯ มีรายงานที่ขัดแย้งกันของสื่อจีนหลายสำนักว่า นพ.หลี่ เสียชีวิตแล้วหรือไม่

โรงพยาบาลกลางอู่ฮั่น (Wuhan Central Hospital) ซึ่งเป็นผู้รักษาอาการป่วยของ นพ.หลี่ ได้โพสต์ข้อความผ่านหน้าโซเชียลมีเดีย Weibo ของโรงพยาบาล ระบุว่า นพ.หลี่ ได้เสียชีวิตลงแล้วในช่วงเช้ามืดวันศุกร์ที่ 7 ก.พ. เวลา 02.58 น.โดยข้อความของโรงพยาบาลกลางอู่ฮั่นระบุว่า “นพ.หลี่ เหวินเหลียง ซึ่งเป็นจักษุแพทย์ของโรงพยาบาล โชคร้ายติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในระหว่างการต่อสู้เพื่อควบคุมการระบาด และเสียชีวิตในวันที่ 7 ก.พ. 2020 เวลา 2.58 น. หลังจากความพยายามทุกวิถีทาง  เราเสียใจอย่างยิ่งและอาลัยต่อการจากไปครั้งนี้”

การยืนยันการเสียชีวิตของ นพ.หลี่ ในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากรายงานข่าวที่ขัดแย้งกันของสื่อจีนหลายสำนักในช่วงค่ำของวันพฤหัสฯ ว่า นพ.หลี่ เสียชีวิตแล้วหรือไม่ โดยในช่วงค่ำของวันพฤหัสฯ สำนักข่าวของจีนหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น Global Times, People’s Daily, CGTN, Beijing News และ Caixin ต่างรายงานว่า นพ.หลี่ หัวใจหยุดเต้นและเสียชีวิตแล้วตั้งแต่เวลา 21.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น

สำหรับ นพ.หลี่ ถือเป็นหมอคนแรกที่พยายามออกมาเตือนเรื่องการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019  เขาได้เริ่มเตือนเพื่อนหมอให้ป้องกันตัวเองจากโรคระบาดตัวใหม่ที่ทำให้เกิดอาการป่วยคล้ายโรคซาส์ตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค. ปีที่แล้ว โดยเขาได้โพสต์ข้อความลงในกรุ๊ป WeChat ของกลุ่มเพื่อนเก่าที่เรียนโรงเรียนแพทย์มาด้วยกัน

อย่างไรก็ตาม หลังจากโพสต์ข้อความดังกล่าวได้ไม่นาน นพ.หลี่ก็ถูกตำรวจเมืองอู่ฮั่นกล่าวหาว่าเป็นผู้กระจายข่าวลือและเผยแพร่ข้อมูลปลอมเรื่องไวรัสระบาด  แต่ในตอนหลังเจ้าหน้าที่ก็ได้ออกมาขอโทษ นพ.หลี่ ในที่สุด จนกระทั่ง นพ.หลี่ เริ่มมีอาการป่วยตั้งแต่วันที่ 12 ม.ค. ที่ผ่านมา  และได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 นี้ตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค. จนกระทั่งเสียชีวิต นพ.หลี่ ก็มีอายุเพียง 34 ปีเท่านั้น

ข่าวที่ 2 : 2 โจ๋วัย 13 ควงปืนปลอมบุกจี้หนุ่มนศ.ในร้านสะดวกซื้อ

มีผู้เสียหายถูกชิงทรัพย์ หน้าร้านสะดวกซื้อในซอยวัดเกาะ ย่านสายไหม ช่วงหัวค่ำ เมื่อวันที่ 5 ก.พ.2563 ที่ผ่านมา โดยช่วงนั้นคนพลุกพล่าน แต่คนร้ายไม่เกรงกลัว และสิ่งที่น่าตกใจ คือ ผู้ก่อเหตุเป็นเยาวชนชายอายุประมาณ 10-13 ปี ใช้อาวุธปืนจี้ขอเงินผู้เสียหาย โดยกล้องวงจรปิด จะเห็นว่ามีชายอายุ15-18 ปี 1 คน และเยาวชนชายอายุประมาณ 10-13 ปี เดินเข้าประชิดตัวผู้เสียหาย และมีการพูดคุยกัน จากนั้นก็เดินออกไป

ภาพที่เห็นเป็นเหตุการณ์จี้ชิงทรัพย์ โดยนายเอ (นามสมมุติ) อายุ20ปี  เข้าแจ้งความตำรวจ สน.สายไหม พร้อมนำหลักฐานกล้องวงจรปิดมามอบให้ โดยนายเอเล่าว่า ขณะที่กำลังจะเข้าไปซื้อขนมในร้านสะดวกซื้อ มีเงิน 500 บาท หยิบออกจากกระเป๋า ระหว่างนั้นก็มีชายวัยรุ่นเดินเข้ามา พร้อมเด็กชายแต่งตัวมอมแมม เดินเข้ามาประชิดตัว และเด็กชายก็ใช้อาวุธคล้ายปืนจี้ที่เอว แล้วพูดว่า ขอเงินหน่อย เอาเงินมา แต่ตนไม่ให้ เด็กชายก็ยิงปืนดังแก๊กๆ 2ครั้ง ตอนนั้นตกใจมาก รู้ว่าเป็นปืนปลอมจึงวิ่งหนี ส่วนคนก่อเหตุก็ทิ้งปืนลงถังขยะ และขับ จยย.หนีไป ตนตกใจมาก เพราะหากอาวุธที่ใช้ถ้าไม่ใช่ปืนปลอมเป็นมีดหรืออาวุธอื่น ตนจะเป็นอย่างไร พอคนร้ายหนีไปแล้วตนกับพี่สาวจึงออกมาดูที่ถังขโมย ก็เห็นปืนปลอมทิ้งไว้

จากการลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ พบว่าข้างร้านสะดวกซื้อยังมีตลาด และร้านค้าจำนวนมาก กลุ่มผู้ค้าในตลาดบอกว่าก่อนหน้านี้โจรขโมยชุมมาก สิ่งของที่เก็บไว้ในตู้ถูกงัดขโมยไปหมด โดยแม่ค้ารายหนึ่งเล่าว่า เห็นเด็กชายที่ก่อเหตุ เคยเดินขอเงินลูกค้าร้านอาหารหลายครั้ง โดยจะเลือกคนก่อน จากนั้นก็เข้าไปประชิดและพูดขอเงินหน่อย ขอเงินหน่อย ไม่รู้ว่าเป็นลูกใคร แต่ชาวบ้านแถมนี้ก็เอือมระอากับพฤติกรรม หลังมีการแชร์ข่าวออกไป ไม่นานช่วงค่ำ ตำรวจก็ได้ควบคุมตัวเด็กชายอายุเพียงแค่ 10 ปี อาศัยในชุมชนใกล้ที่เกิดเหตุ โดยทางพนักงานสอบสวน รอสอบปากคำพร้อมกับสหวิชาชีพ ว่าเป็นผู้ก่อเหตุหรือไม่ต่อไป

ข่าวที่ 3 : กระบะหัวร้อนปาดหน้าแท็กซี่ เล็งหนังสติ๊กขู่ยิง

มีคลิปรถแท็กซี่ถูกรถยนต์กระบะหลังคาสูง (ตู้ทึบ) ส่งสินค้า ขับปาดหน้า พร้อมกับเปิดกระจก เล็งหนังสติ๊กสีแดง และทำท่าเหมือนจะยิงมาในรถแท็กซี่ คนขับจึงพยายามขับหลบหนี และแจ้งความกับตำรวจ

จากการสอบถาม นายเศรษฐา รอดอนันต์ คนขับรถแท็กซี่ ได้เล่าให้ฟังว่า ตนขับรถมาส่งผู้โดยสาร บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าชื่อดังบริเวณริมถนนสุขสวัสดิ์ หลังจากส่งผู้โดยสารเรียบร้อยแล้ว ได้มีรถกระบะหลังคาสูงคันดังกล่าวได้ขับมาจอดบริเวณด้านหน้าของรถตน ตนจึงไม่สามารถออกได้และก็นั่งรออยู่ภายในรถ จนกระทั่งมีรถมาด้านหลังของตนนั้นและได้บีบแตรเสียงดัง ลักษณะคล้ายกับไล่รถของตนเอง แต่รถของก็เองก็ไม่สามารถขับหรือเคลื่อนรถได้ ประกอบกับรถของตนเองนั้นแตรเสีย จึงกะพริบไฟหน้าไปหลายครั้งใส่รถกระบะคันดังกล่าวเพื่อขอทางออก

หลังจากออกมาจากหน้าห้างสรรพสินค้าแล้ว รถกระบะคันดังกล่าวก็ขับตามจากด้านหลัง จากนั้นได้ขับมาประกบด้านข้างขวาของรถ และปาดหน้ารถโดยมีการเปิดกระจกมองเห็นว่ามี เด็กและผู้หญิงนั่งอยู่ข้างคนขับมาด้วย คาดว่าน่าจะเป็นลูกและภรรยา แต่ก็ไม่มีการห้ามปรามใดๆ

จากนั้นรถกระบะคันดังกล่าว ได้ขับปาดเข้าเลนด้านซ้ายคล้ายกับจอดรถและมีการเล็งหนังสติ๊กที่พกติดรถมาด้วย พร้อมกับง้างเตรียมยิงมาทางตน ตามดังคลิปที่ปรากฏ ตนรู้สึกหวาดกลัว และจึงตัดสินใจมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความไว้เป็นหลักฐานดังกล่าว อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด และติดตามผู้ขับขี่รถกระบะรายนี้มาสอบสวนเพิ่มเติมและแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป

ขอขอบคุณคลิปและรูปภาพจาก Workpoint news, คมชัดลึก และ Facebook ฅนข่าว ต้นปราการ