ข่าวที่ 1 : “วิโรจน์” แฉยับ! ลั่น “บิ๊กตู่” อยู่เบื้องหลังปฏิบัติการไอโอ (IO)
บรรยากาศการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลวันที่ 2 ในช่วงค่ำบรรยากาศยิ่งดุเดือดขึ้นไปอีกเมื่อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตอนาคตใหม่ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร จัดหนักกลางดึก กล่าวหา นายกรัฐมนตรี ใช้งบหลวง ทำไอโอ อักษรย่อ พ.ใส่ร้ายพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม แทรกแซงสร้างวาทกรรมชังชาติ คุกคามสิทธิมนุษชน ทำให้สังคมแปลกแยก
นายวิโรจน์ ยังกล่าวว่า มีขบวนการผลิตเนื้อหาโจมตีนักเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชนชายแดนใต้ โดยกล่าวหาว่า กอ.รมน อยู่เบื้องหลังเพจ และคอนเทนท์เหล่านี้ ขยายความเกลียดชังในวงกว้างทำให้การเมืองไทย-ประเทศชาติถดถอย อีกทั้งยังมีการกล่าวอ้างว่าพบเอกสารลับการซักซ้อมกับไอโอของกองทัพ โดยมีการแนะนำให้เจ้าหน้าที่มีบัญชีผู้ใช้หลายเฟซอวตาร เพื่อไม่ให้รู้ว่าเป็น Facebook ของนายกรัฐมนตรี และให้เจ้าหน้าที่รับทราบภารกิจอีกด้วย ซึ่งมีการใช้ภาษีของประชาชนมาใช้ในสื่อออนไลน์โซเชี่ยลข่าวเหล่านี้ โดยว่าจ้างบริษัท เอกชน อักษร ย่อ พ. โดยพลเอกประยุทธ์ ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบในส่วนนี้ได้
ระหว่างการอภิปราย ส.ส.วิโรจน์ ได้มีการนำคลิปวีดีโอมาเปิด อ้างว่าเป็นไอโอกลับใจ แฉวิธีการทำไอโอให้กับนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลชุดนี้ โดยในคลิปเป็นการพูดคุยวิธีการทำงานกับกลุ่มที่ทำเนื้อหาไอโอ พร้อมให้ประชาชน สแกนคิวอาร์โค้ดเข้าไปในกลุ่มที่ผู้อภิปรายกล่าว ซึ่งก่อนหน้านี้สแกนเข้ากลุ่มได้ แต่ล่าสุดมีรายงานว่า ตอนนี้กลุ่มดังกล่าวเมื่อสแกนปรากฏว่าไม่ขึ้นว่ามีกลุ่มนี้แล้ว โดย ส.ส.วิโรจน์ ร้องขอให้ประชาชนมีส่วนร่วมกันทลายกระบวนการดังกล่าวยุติการสืบทอดอำนาจของรัฐบาล ค.ส.ช. และหลังจากนายวิโรจน์ อภิปรายเสร็จสิ้น นายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้ลุกขึ้นชี้แจงในประเด็นดังกล่าวแต่อย่างใด
ข่าวที่ 2 : “ชลน่าน” จวกไม่วางใจ “บิ๊กตู่” จี้ปมใช้ ม.44 ปิดเหมืองทองอัครา
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส. จังหวัดน่าน พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยกล่าวว่า พล.อ. ประยุทธ์ ไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเป็นนายกฯ ในหลายๆ ประการ โดยกล่าวว่า “คุณสมบัติการเป็นนายกรัฐมนตรีมีอยู่ในรัฐธรรมนูญหมดแล้ว เพียงแต่ไม่มีใครไปวินิจฉัยเท่านั้นเอง แต่เชื่อว่าหลายคนจะยื่นหลังจบการอภิปรายครั้งนี้ โดยความสำคัญที่ต้องหยิบมาพูดเพราะเรื่องของคุณสมบัติเป็นสิ่งจำเป็นในการบริหารราชการแผ่นดิน การบริหารคน สิ่งที่สำคัญที่ต้องมีคือ วุฒิภาวะ บุคลิกภาพ ภาวะความเป็นผู้นำ และการตัดสินใจ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่มีอยู่ใน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำให้การบริหารบ้านเมืองเต็มไปด้วยความล้มเหลว เกิดความหายนะ และจะเกิดภัยพิบัติต่อไป”
นอกจากนี้ นพ.ชลน่าน ยังได้เปรียบผลงานการบริหารในยุคของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา สั้นๆ ว่า “น้ำหมดเขื่อน เงินหมดคลัง ผู้คนหมดหวัง ตราชั่งหมดตรง” โดยอธิบายว่า เป็นการเปรียบจากสิ่งที่สะท้อนออกมาจากประชาชน ที่ระบายออกมาให้เห็นว่ายุคในการดูแลของ พล.อ. ประยุทธ์ หรือนักประชาธิปไตยในคราบเผด็จการ อีกทั้งยังกล่าวว่า “สำหรับการใช้อำนาจโดยไม่ชอบธรรมมีอะไรบ้าง คงต้องบอกว่าเยอะมาก ออกมาตรา 44 มาบอกกับประชาชนว่า จะบูรณาการแก้ปัญหา แต่หลายเรื่องกลับเป็นการเอาออกมาปกป้อง ออกมาเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ ออกมาเพื่อการสืบทอดอำนาจ และอยู่ในอำนาจต่อไป”
ทั้งนี้ ในระหว่างการอภิปราย นพ.ชลน่าน ได้มีการหยิบยกปมเหมืองทองอัครา ที่เกี่ยวข้องกับการใช้มาตรา 44 ปิดเหมืองทองของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) จนเกิดเป็นการฟ้องร้องราชอาณาจักรไทยด้วยเม็ดเงินมูลค่ามหาศาล อันเป็นสิ่งที่ตอกย้ำให้เห็นว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้อำนาจในทางมิชอบ และทำให้ประเทศเกิดความเสียหายอีกด้วย
ข่าวที่ 3 : แฉ! คลิปเสียง “สำลี รักสุทธี” ถูกซื้อตัวซบภูมิใจไทย “อนุทิน” ลั่น! พวกกุ๊ยชอบอัดเทป
ประเด็นร้อนแรงทางการเมืองในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจยังไม่จบ เมื่อ ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ 9 คน ที่ย้ายค่ายหนีอย่างรวดเร็ว จากฝ่ายค้านหันไปซบพรรคร่วมรัฐบาล ส่งผลให้พรรคภูมิใจไทยเนื้อหอมทันที มีสมาชิกในสภาฯ เพิ่มขึ้น 9 คน เป็น 61 คน และเป็นพรรคการเมืองลำดับที่ 3 ของประเทศ แทนพรรคประชาธิปัตย์ และใหญ่เป็นอันดับสองของพรรคร่วมรัฐบาล
ร.ต.ต.มณฑล โพธิ์คาย ส.ส.กทม. อดีตพรรคอนาคตใหม่ เปิดเผยถึงเหตุผลย้ายมาสังกัดภูมิใจไทยว่า เกิดจากฟางเส้นสุดท้ายที่ย้ายเข้าภูมิใจไทย ไม่ใช่มีผลประโยชน์แลกเปลี่ยน แต่ถูกมัดมือชกมีแกนนำอนาคตใหม่บางคน นำเอกสารการสมัครเข้าสังกัดพรรคหนึ่งที่ยังไม่ระบุชื่อพรรคและแกนนำใหม่ที่ชัดเจน ไม่มีรายละเอียดของพรรค อีกทั้งหัวหน้าพรรคคนใหม่ อาจไม่ใช่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เชื่อว่าหลังอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะมีเพื่อน ส.ส.กว่า 20 คนมาร่วมงานกับภูมิใจไทย
ด้านวิรัช พันธุมะผล ส.ส.อตีดพรรคอนาคตใหม่ แสดงตัวไปนั่งของพรรคภูมิใจไทยอย่างชัดเจน โดยนั่งร่วมกับ น.ส.ศรีนวล บุญลือ ที่เคยอยู่พรรคอนาคตใหม่ด้วยกัน และสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยเรียบร้อยแล้ว
ขณะที่อดีต ส.ส.มหาสารคาม เปิดคลิปเสียงแฉ 1 ใน 9 ส.ส.อนาคตใหม่ นายสำลี รักสุธี ถูกซื้อตัวซบภูมิใจไทย ไม่อยากเชื่อในสภามีการซื้อขาย ส.ส. เหมือนโคกระบือ ด้านอนุทินโต้เดือด พวกกุ๊ยอัดเทป ปล่อยคลิปเสียงแฉ บอกต้องมีมารยาท ไม่ใช่อัดเทป เป็นพฤติกรรมกุ๊ย อัดเทปบ้าๆ บอๆ ไม่เข้าท่า ระบุ ไม่ฟ้อง เพราะฟ้องกุ๊ยก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ยืนยันไม่มีเรื่องเงิน ถ้ามีหลักฐานลุยเลยอยากรู้เหมือนกันว่าใครจ่ายให้
ข่าวที่ 4 : "ดอนเมือง" ผวาหนัก หลังพบผู้ป่วยเสี่ยงติด COVID-19
เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ สถานการณ์โรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ในประเทศไทย ล่าสุด รพ. บี.แคร์ เมดิคอลเซ็นเตอร์ ได้ออกแถลงการณ์พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส COVID-19 เข้ารักษาตัวที่ รพ. บี.แคร์เมดิคอลเซ็นเตอร์ โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา ผู้ป่วยชายไทยมาด้วยอาการ ไข้ ไอ ผู้ป่วยปฏิเสธประวัติการเดินทางไปต่างประเทศ เบื้องต้นได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นปอดอักเสบ และให้รักษาตัวในโรงพยาบาล
ต่อมาเช้าวันที่ 24ก.พ. แพทย์อายุรกรรม ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคปอด ได้เข้าตรวจอาการผู้ป่วยและสอบถามประวัติการเดินทางไปต่างประเทศอีกครั้ง ผู้ป่วยก็ยังคงปฏิเสธ จนกระทั่งช่วงสาย ผู้ป่วยได้เปิดเผยประวัติว่าได้เดินทางไปท่องเที่ยวที่เมืองฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น หลังจากที่ผู้ป่วยแจ้งประวัติดังกล่าว ทาง โรงพยาบาลฯ จึงได้ติดต่อสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง ซึ่งได้ระบุว่าผู้ป่วยรายนี้เข้าเกณฑ์กลุ่มเสี่ยงและย้ายผู้ป่วยเข้าพักรักษาตัวในห้องความดันลบ รวมถึงส่งตรวจ PCR for COVID-19 ทันที ปัจจุบันผู้ป่วยได้รับการส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลของรัฐ เรียบร้อยแล้ว ขณะเดียวกันจากการที่ผู้ป่วยปกปิดและปฏิเสธประวัติการเดินทางไปต่างประเทศ ส่งผลให้บุคลากรทั้งแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลฯ ในกลุ่มที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยเสี่ยงต่อการติดเชื้อ COVID-19 จำนวน 30 คน ต้องเข้ารับการตรวจร่างกายอย่างละเอียด โดยรพ.สั่งให้หยุดงาน สังเกตอาการที่บ้าน ส่วนหอผู้ป่วยได้ทำการ Deep Clean ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคแล้ว
ข่าวที่ 5 : พบร่างหนุ่มนิรนามหมกในกระเป๋า ลอยล่องกลางแม่น้ำ
เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชร รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านที่ออกหาปลา พบกระเป๋าเดินทางลอยติดอยู่ที่หาดริมเกาะแก่งกลางแม่น้ำปิงและส่งกลิ่นเหม็นคล้ายซากศพเน่า ที่บริเวณเกาะกลางแม่น้ำปิง ของบ้านท่าไม้แดงใต้ หมู่ที่ 8 ต.ลานดอกไม้ อ.เมือง จ.กำแพงเพชร เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำแพงเพชร พร้อมด้วยกองพิสูจน์หลักฐาน ได้ลงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐานก่อนที่จะเคลื่อนศพกลับมาที่ฝั่ง ก็ต้องตกตะลึง เนื่องจากพบศพยัดอยู่ในกระเป๋าเดินทาง ที่มีสภาพค่อนข้างใหม่ โดยสภาพศพที่พบ เป็นชายอายุ 40 ปี สูง 165-170 ผมสั้นผิวขาว สวมกางเกงขาสั้นสีขาวลายดำ เสื้อยืดแขนสั้นสีขาว ที่ข้อเท้าถูกรัดด้วยสายเคเบิลพลาสติก และที่แขนขวาถูกเชือกสีแดง พันรอบตัวมัดติดอยู่กับลำตัว
ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตก่อนถูกจับยัดใส่กระเป๋า และยังไม่พบหลักฐานเอกสารว่าเป็นคนไทยหรือชาวต่างชาติและมีภูมิลำเนาอยู่ที่ใด พร้อมเร่งหาเบาะแสดังกล่าวจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่มุ่งหน้ามาที่เกิดเหตุ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ประสานสนับสนุนชุดประดาน้ำเพื่อที่จะค้นหากระเป๋าอีก 1 ใบ เนื่องจากมีพยานใกล้สะพานให้การว่าได้ยินเสียงสิ่งของถูกโยนลงน้ำดัง 2 ครั้ง ขณะเดียวกันยังมีรายงานว่า จากการตรวจสอบของผู้ใหญ่บ้าน ไม่พบลูกบ้านสูญหาย แต่มีข้อมูลว่า เมื่อวานนี้ช่วงเวลาประมาณ 12.00 น.มีรถกระบะคันหนึ่ง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนและสีรถได้ขับมาจอดที่บริเวณกลางสะพาน ซึ่งอยู่ห่างจากที่พบศพ 500 เมตร จากนั้นมีผู้ชาย 2 คนลงมาจากรถและลักษณะคล้ายกับยกสิ่งของลงจากรถและลงไปในแม่น้ำ
ขอขอบคุณคลิปและรูปภาพจาก อนาคตใหม่ - Future Forward, พรรคเพื่อไทย,
โรงพยาบาล บี.แคร์ เมดิคอลเซ็นเตอร์, ข่าวช่องวัน
