วันศุกร์ที่ 26 เมษายน 2567
เพจดังแฉ! คนสนิท รมต.ดัง เอี่ยวกักตุนหน้ากากอนามัย
SHARE

เพจดังแฉ! คนสนิท รมต.ดัง เอี่ยวกักตุนหน้ากากอนามัย

โพสต์โดย wipcreamz jarm เมื่อ 9 มีนาคม 2563 - 17:49

ข่าวที่ 1 : เพจดังแฉ! คนสนิท รมต.ดัง เอี่ยวกักตุนหน้ากากอนามัย

สรุปแฮชแท็กร้อนทวิตเตอร์เมื่อคืน #maskไม่พอบอกพอ #saveแหม่มโพธิ์ดำ

1 เพจ "แหม่มโพธิ์ดำ" ซึ่งแอดมินเพจใช้นามแฝงว่า “ควีน” ได้โพสต์ข้อมูลอ้างว่า คนสนิทของผู้ติดตามรัฐมนตรีช่วยฯ ชื่อดังคนหนึ่ง ทำการกักตุนหน้ากากอนามัยไว้ในสต๊อกหลายล้านชิ้น มีหลักฐานทั้งคลิปและภาพถ่าย โดยตั้งนามสมมุติให้คนสนิทผู้ติดตามรัฐมนตรีช่วยฯ ว่า “ศร” เพื่อสะดวกในการเล่าเรื่อง โดยหลักฐานทั้งหมดที่ควีนนำมาแสดงนั้นล้วนมาจากเฟซบุ๊กส่วนตัวของนายศรเองทั้งสิ้น สรุปคือเจ้าตัวโพสต์เอง อาทิ

- โพสต์อ้างว่ามีหน้ากากอนามัยในสต๊อก 200 ล้านชิ้น เป็นหน้ากากอนามัยที่ใช้ในห้องผ่าตัด หนา 3 ชั้น และจะขายครั้งละ 1 ล้านชิ้นเท่านั้น โดยพร้อมขายให้กับนายทุนจีน หรือนายหน้าที่พานายทุนจีนมาซื้อ

- โพสต์ภาพสมุดบัญชีเงินฝากที่มีเงินเข้าอย่างต่อเนื่องเป็นพันล้าน และภาพเช็คสั่งจ่ายเงินจำนวน 14 ล้านบาท

- โพสต์ภาพรถเบนซ์ป้ายแดงพร้อมแคปชั่นว่า “ชีวิตรัฐบาลประยุทธ์ ทุกอาชีพนิ่งสงบ ยกเว้นอาชีพขายหน้ากากอนามัย”

- โพสต์ภาพอ้างว่าถ่ายกับเลขารัฐบาลจีน, นายทุนจีน, เจ้าของโรงงานผลิตหน้ากากอนามัย และตำรวจจากสถานีตำรวจแห่งหนึ่ง โดยระบุว่าเป็นการหารือทางการค้าร่วมกัน

- โพสต์คลิปที่ถ่ายให้เห็นขณะกำลังจำหน่ายและขนหน้ากากอนามัย 2 ล้านกว่าชิ้นให้นายทุน โดยเจ้าตัวเดินมาอธิบายในคลิปด้วยตนเองว่า “มีเยอะ ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่ได้ ขอให้มีเงินกันจริงๆ”

- อีกคลิปหนึ่งระบุว่าเป็นวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 23.08 น. พร้อมโชว์หน้ากากอนามัยที่ขนขึ้นรถจำนวนมาก และบอกว่าใครอยากได้ของให้ติดต่อตนได้เลย และนายศรยังถ่ายให้เห็นป้าย “สถาบันพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการไทย-จีน” ชัดๆ เพื่อแสดงให้เห็นว่าตนส่งออกให้จีนจริง ซึ่งต่อมาชาวเน็ตนำไปสาวต่อจนพบว่าประธานมูลนิธิเป็นประธานยุทธศาสตร์ของพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีการโพสต์บัตรผ่านเข้า-ออกรัฐสภาและนามบัตรของผู้ติดตามรัฐมนตรีช่วยฯ คนดังกล่าวอย่างชัดเจนด้วย

หลังจากควีนโพสต์แล้ว เรื่องดังกล่าวก็ถูกขยายต่ออย่างรวดเร็วจนกลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลกออนไลน์ ทำให้นายศรปิดเฟซบุ๊กไป คนก็พากันวิพากษ์วิจารณ์ด้วยความโกรธแค้นว่า ในขณะที่แพทย์และประชาชนทั้งประเทศขาดแคลนหน้ากากอนามัย แต่ทำไมคนใกล้ชิดผู้ติดตามรัฐมนตรีจึงมีหน้ากากอนามัยในสต๊อกสำหรับขายให้จีนเป็นล้านๆ ชิ้น พร้อมกับที่แฮชแท็ก #maskไม่พอบอกพอ ก็ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ประเทศไทย เพื่อวิจารณ์การทำงานของรัฐบาลที่พยายามปิดปากบุคลากรทางการแพทย์มาตลอดว่ามีหน้ากากอนามัยเพียงพอ

เพจดังแฉ! คนสนิท รมต.ดัง เอี่ยวกักตุนหน้ากากอนามัย
เพจดังแฉ! คนสนิท รมต.ดัง เอี่ยวกักตุนหน้ากากอนามัย
เพจดังแฉ! คนสนิท รมต.ดัง เอี่ยวกักตุนหน้ากากอนามัย

ข่าวที่ 2 : “ธรรมนัส” ชี้แจง! ไม่เกี่ยวข้องเรื่องกักตุนหน้ากาก

ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ ร้อยเอกธรรมนัส ชี้แจงไม่เกี่ยวข้องเรื่องกักตุนหน้ากากและแจ้งว่าคณะทำงานไม่เกี่ยวแค่ไปพบเฉยๆ หากคณะทำงานใกล้ชิดผิดพร้อมให้ความร่วมมือดำเนินคดี โดยระบุว่า

เรื่อง ชี้แจงข้อเท็จจริง ตามที่ปรากฏข่าวจากการเผยแพร่ของเพจแหม่มโพธิ์ดำว่า คนสนิทผู้ติดตามข้าพเจ้าได้กักตุนหน้ากากอนามัยจำนวน 200 ล้านชิ้นเพื่อขายต่อให้กับนายทุนจีนและผู้อื่น นั้น ขอเรียนชี้แจง ดังนี้

(1) จากการตรวจสอบพบว่าผู้กักตุนและขายหน้ากากอนามัยคือนายศรสุวีร์ ภู่รวีร์รัศวัชรี ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับข้าพเจ้า

(2) ส่วนนายพิตตินันท์ รักเอียด ซึ่งเป็นคณะทำงานของข้าพเจ้า นั้น ได้ยืนยันกับข้าพเจ้าว่าตนได้ไปพบกับนายศรสุวีร์ตามคำแนะนำของเพื่อนเพื่อพูดคุยเรื่องหน้ากากอนามัยจริง โดยได้ไปพบกันที่โรงแรมแมริออท (ประตูน้ำ) กรุงเทพมหานคร แต่ไม่ได้มีการซื้อขายหน้ากากอนามัยกันและไม่เคยรู้จักกันกับนายศรสุวีร์มาก่อนโดยเป็นการพบกันครั้งแรก

(3) เพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ในเรื่องนี้ ข้าพเจ้าได้ขอให้นายพิตตินันท์ไปแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับนายศรสุวีร์ในความผิดฐานกักตุนหน้ากากอนามัยและขายสินค้าเกินราคาและในความผิดที่ถูกนายศรสุวีร์แอบอ้างนำข้อความไปโพสต์ดังกล่าว พร้อมกับให้นำหลักฐานการแจ้งความมาแถลงข่าวเพื่อให้ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบอีกทางแล้วโดยนายพิตตินันท์จะดำเนินการในวันนี้

(4) อนึ่ง นายพิตตินันท์ รักเอียด เคยเป็นผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขต 6 จังหวัดสุราษฎร์ธานี พรรคพลังประชารัฐ ได้ขอมาเป็นคณะทำงานของข้าพเจ้าจริง แต่หากพบว่านายพิตตินันท์ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดของนายศรสุวีร์ดังกล่าว ข้าพเจ้าพร้อมที่จะให้ความร่วมมือดำเนินคดีกับนายพิตตินันท์ทันที

เพจดังแฉ! คนสนิท รมต.ดัง เอี่ยวกักตุนหน้ากากอนามัย
เพจดังแฉ! คนสนิท รมต.ดัง เอี่ยวกักตุนหน้ากากอนามัย

ข่าวที่ 3 : วุ่น! สาวจีนไอใส่หน้าลูกเรือการบินไทย หลังรอตรวจโควิด-19 กว่า 7 ชั่วโมง

สมาชิกยูทูปชื่อ 'Fugu M' ได้โพสต์คลิปวิดีโอความวุ่นวายในห้องผู้โดยสารของสายการบินไทย ความยาว 33 วินาที พร้อมระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่สนามบินผู่ตง นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน หลังจากเครื่องบินต้องรอกระบวนการฆ่าเชื้อนาน 7 ชั่วโมง ทำให้ผู้โดยสารหญิงชาวจีนคนหนึ่งเกิดอาการคลุ้มคลั่ง และตั้งใจไอใส่พนักงานต้อนรับ เพื่อกดดันให้เปิดประตูเครื่องบิน เพื่อที่ตัวเองจะได้ลงจากเครื่อง ขณะที่พนักงานต้อนรับอาวุโส ได้เข้ามาตักเตือนผู้โดยสารรายดังกล่าว และมีความพยายามขัดขืนและต่อสู้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะทำการล็อกตัวผู้โดยสารรายนี้เอาไว้เพื่อควบคุมเหตุการณ์วุ่ยวายที่เกิดขึ้น

ล่าสุดเรืออากาศเอกปรารถนา พัฒนศิริ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายความปลอดภัย ความมั่นคง และมาตรฐานการบิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ชี้แจงว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นบนเที่ยวบินที่ ทีจี 664 วันที่ 6 มีนาคม 2563 เส้นทางบิน กรุงเทพฯ-เซี่ยงไฮ้ ขณะที่เครื่องบินลงจอดที่สนามบินเซี่ยงไฮ้ การบินไทยได้รับแจ้งว่าในวันที่ 6 มีนาคม 2563 เป็นวันแรกที่สนามบินเซี่ยงไฮ้มีมาตรการตรวจคัดกรองผู้โดยสารที่มีประวัติการเดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงได้แก่ อิตาลี เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และอิหร่าน โดยเครื่องบินทุกลำที่มีผู้โดยสารที่เดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยงดังกล่าว หากเดินทางเข้ามา หรือต่อเครื่องในเซี่ยงไฮ้ จะมีเจ้าหน้าที่ขึ้นไปตรวจคัดกรองอย่างเข้มข้น โดยจะไม่อนุญาตให้เปิดประตูเครื่องบินให้ผู้โดยสารลงจากเครื่อง จนกว่าเจ้าหน้าที่จะมาดำเนินการเสร็จ ซึ่งเที่ยวบินนี้จำเป็นต้องรอถึง 7 ชั่วโมง จึงทำให้มีผู้โดยสารรายหนึ่งแสดงกิริยาดังกล่าวออกมา แต่ในเวลาต่อมาผู้โดยสารคนดังกล่าวก็อยู่ในความสงบลงและยอมนั่งลงกับที่เพื่อรอการตรวจคัดกรองต่อไป

เพจดังแฉ! คนสนิท รมต.ดัง เอี่ยวกักตุนหน้ากากอนามัย
เพจดังแฉ! คนสนิท รมต.ดัง เอี่ยวกักตุนหน้ากากอนามัย

ข่าวที่ 4 : “พิธา” นำ 55 อดีตส.ส.อนาคตใหม่ ย้ายเข้า "พรรคก้าวไกล"

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ นำ 55 ส.ส. แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน หลังร่วมประชุมกำหนดแนวทางการทำงานและเข้าไปสมัครสมาชิกพรรคการเมืองใหม่ภายหลังพรรคอนาคตใหม่ถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยุบพรรค

นายพิธา กล่าวว่า ที่ประชุมร่วมของ ส.ส. ทั้ง 55 คนมีความเห็นร่วมกันว่า จะย้ายไปสมัครสมาชิกพรรค “ก้าวไกล” โดยขณะนี้ อยู่ระหว่างการประสานงานเพื่อสมัครสมาชิกพรรคต่อไป สำหรับ ส.ส.ที่เหลือยังยึดมั่นอุดมการณ์ที่จะทำงานเพื่อประชาชน ดังนั้น ขอให้มั่นใจว่า แม้จะอยู่บ้านหลังใหม่ แต่จิตใจยังเหมือนเดิม คือ อยู่กับประชาชนและประชาธิปไตย ต่อต้านการสืบทอดอำนาจการรัฐประหาร และผลักดันนโยบายก้าวหน้า

นายพิธา กล่าวต่อว่า ในช่วงระหว่างการประสานงาน เพื่อสมัครสมาชิกพรรคนั้น ที่ประชุม ส.ส.มีมติให้ตนเองเป็นประธาน ส.ส. พร้อมกับให้นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นโฆษกชั่วคราว อย่างไรก็ตาม แม้ขณะนี้ จะอยู่ะหว่างการสังกัดพรรคการเมืองใหม่ แต่การทำงานจะเดินหน้าต่อทันที

นายพิธา ยังยืนยันว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคก้าวไกล และพวกเขาไม่ได้รับอุดมการณ์ของพรรคอนาคตใหม่มา เนื่องจากเป็นอุดมการณ์เดิมที่ ส.ส.ทุกคนได้ร่วมกันทำงานมาก และหากหลังจากนี้ นายธนาธรและนายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ จะปรากฏตัวที่รัฐสภา ก็ขออย่ามองว่า มีความเชื่อมโยงกัน เพราะรัฐสภาเป็นพื้นที่ของประชาชนทั่วไป ไม่ใช่พื้นที่ของ ส.ส.เท่านั้น 

เพจดังแฉ! คนสนิท รมต.ดัง เอี่ยวกักตุนหน้ากากอนามัย
เพจดังแฉ! คนสนิท รมต.ดัง เอี่ยวกักตุนหน้ากากอนามัย

ข่าวที่ 5 : ตร.ออกหมายจับ น้องสาวแค้น! สาดน้ำกรดใส่พี่สาว

นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี พร้อมพันตำรวจเอก รัฐศักดิ์ รักสลาม รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 และพนักงานสอบสวน สน.ร่มเกล้า เข้าเยี่ยมอาการหญิง 33 ปี ที่ได้รับบาดเจ็บกรณีถูกน้องสาวสาดน้ำกรดใส่พร้อมลูกชายวัย 10 ขวบและลูกสาววัย 6 ขวบ ขณะนอนหลับ เมื่อกลางดึกวันที่ 3 มีนาคม

นางปวีณา เปิดเผยว่า ล่าสุดอาการของหญิง 33 ปี ยังมีบาดแผลพุพองทั่วทั้งใบหน้า และยังมีอาการน่าเป็นห่วงที่บริเวณดวงตาด้านซ้าย ที่ถูกน้ำกรดกระเด็นใส่ ส่วนลูกชายอีก 2 คน คือคนโตวัย 10 ขวบอาการดีขึ้นและออกจากห้อง ICU แล้ว แต่ลูกชายวัย 6 ขวบ ยังโคม่า มีภาวะสมองร่วมด้วย ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด

ทางด้านพันตำรวจเอกรัฐศักดิ์ ระบุว่า เตรียมรวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลออกหมายจับนางสาวธนพร ผู้ก่อเหตุ ในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น เพราะจากการตรวจสอบพบว่า ผู้บาดเจ็บมีบาดแผลทั่วทั้งใบหน้า อีกทั้งยังเป็นแผลลึก และถูกน้ำกรดเข้าที่ดวงตาด้วย หากไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีก็อาจเป็นเหตุให้เสียชีวิตได้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้บาดเจ็บและแพทย์ เพื่อนำไปยื่นคำร้องต่อศาล

ส่วนมารดาของหญิง 33 ปี เปิดเผยว่า ลูกสาวทั้ง 2 คน ไม่พูดจากันมานานเป็น 10 ปี แล้ว สาเหตุจากก่อนหน้านี้ ลูกสาวคนโต ที่ได้รับบาดเจ็บ เคยใช้หม้อโขกหัวน้องสาว ที่ก่อเหตุ แต่ที่ผ่านมา ทั้งคู่ก็ไม่เคยขัดแย้งจนถึงทำร้ายร่างกายกัน กระทั่งก่อนเกิดเหตุทั้ง 2 คนได้มาขอพักอาศัยอยู่ด้วย เพราะลูกสาวคนโต เกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชน ส่วนลูกสาวคนรอง มาหางานทำ และระหว่างที่ทุกคนกำลังนอนหลับ ลูกสาวคนรองก็ได้ก่อเหตุและหลบหนีไป อยากให้ตำรวจติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เพราะเกรงว่า ลูกสาวคนรองจะกลับมาก่อเหตุกับคนในบ้านอีก สำหรับผู้บาดเจ็บ หลังจากนี้ มูลนิธิปวีณาฯ จะได้ประสานให้กรมคุ้มครองสิทธิ กระทรวงยุติธรรม เข้ามาดูแลเรื่องเงินช่วยเหลือเยียวยา และจะประสานให้กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ พม. เข้ามาฟื้นฟูสภาพใจและดูแลเรื่องความเป็นอยู่หลังจากนี้

เพจดังแฉ! คนสนิท รมต.ดัง เอี่ยวกักตุนหน้ากากอนามัย
เพจดังแฉ! คนสนิท รมต.ดัง เอี่ยวกักตุนหน้ากากอนามัย

ขอขอบคุณคลิปและรูปภาพจาก เพจ Poetry of Bitch, Mthai, การบินไทย, ข่าวช่อง 8 และ อีจัน


แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook

บริการของเรา

Advertising

พื้นที่โฆษณาประชาสัมพันธ์ สินค้าและบริการ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Web Design

ออกแบบเว็บไซต์ ครบจบในที่เดียว ทั้ง FrontEnd และ BackEnd ด้วยทีมงานมืออาชีพ ประสบการณ์กว่า 15 ปี

Web Application

ไม่ว่าจะธุรกิจใดให้ระบบช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน จากรูปแบบเดิมๆ ให้อยู่ในรูปแบบ Online

VDO Creator

บริการออกแบบ และ จัดทำ Presentation ShowCase Review สินค้า TVC หรือ Viral Clip

เราใช้คุ้กกี้เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy)
About Us | Advertising
Join With Us | Contact
Privacy Policy | Terms of Service
Corrections Policy | DMCA Copyrights Disclaimer
Ethics Policy | Fact-Checking Policy
Editorial team information | Ownership and Funding Info
ติดต่อลงโฆษณา: 0880-900-800, อีเมล์: ads@jarm.com
แนะนำติชม/ฝากข่าวประชาสัมพันธ์: info@jarm.com